ยามิชิไบ ตอนที่ 2 ของ Season ที่ 6 นี้ เข้ากับสถานการณ์เกี่ยวกับถ้ำพอดี ในบ้านเราคงจะทราบกันดีเกี่ยวกับ ข่าวช่วยเด็กและโค้ชทีมหมูป่าที่ติดถ้ำหลวงในขุนน้ำนางนอน ซึ่งตอนนี้ทุกคนออกจากถ้ำและรักษาตัวในโรงพยาบาลอย่างปลอดภัยแล้วครับ
ชื่อตอนภาษาญี่ปุ่นเขียนว่า 友無洞 พร้อมกับคำอ่าน ともなしどう (Tomonashi Dou) ผมจึงแปลแบบคร่าวๆ ว่า "ถ้ำไร้เพื่อน" แต่เนื่องจากได้ลองดูเนื้อหาแบคร่าวๆ แล้ว จึงแปลตามเหตุการณ์ให้เป็นชื่อตอนว่า "ถ้ำทิ้งเพื่อน" จะทิ้งเพื่อนอย่างไร เราลองมาดูกันครับ
ยามิชิไบ Season ที่ 6 ตอนที่ 2 "ถ้ำทิ้งเพื่อน"
ตอนนี้เป็นเป็นเรื่องราวของกลุ่มนักเรียนหญิงเข้าไปทัศนศึกษาใน ถ้ำโตโมนาชิ (ตามชื่อตอน) โดยมีไกด์บอกทางอยู่ตลอด โดยเล่าเกี่ยวกับความเชื่อของถ้ำนี้ว่า จะมีเสียงเด็กผู้หญิงร้องผ่านออกมาจากลมที่พัดออกมา
หนึ่งในนั้นเป็นกลุ่มเด็กผู้หญิง 4 คน ได้เดินไปยังจุดหนึ่งที่ "ห้ามเข้า" เมื่อเข้าไปยังจุดต้องห้ามแล้ว 3 คนที่เหลือก็ผลักโทโมโกะทิ้งไป โทโมโกะยังครวญว่า อาคาเนะ (สวมแว่น) ทำแบบนี้ยังเป็นเพื่อนกันอยู่หรือ? เนื้อหาทั้งหมดจะเป็นอย่างไรสามารถอ่านต่อในกระทู้พันทิปได้ครับ
การตีความและการวิเคราะห์
ช่วงแรก เราจะเห็นว่าผู้หญิงที่เข้าไปในเขตต้องห้ามมี 4 คน และนั่นก็โดนผีหลอกหมดทุกคนเลย ซึ่งแน่นอนว่า โทโมโกะ กับเพื่อนหลอกอีก 2 ตัวนี้ ถูกผีลากเอาชีวิตไป ส่วนอาคาเนะออกไปจากถ้ำด้วยสภาพผีเข้าสิง
ตอนนี้ถือว่าเป็น มุกเดิมๆ ของยามิชิไบ ที่ตัวละครยังจะเผือกเข้าไปในที่ๆ ต้องห้าม เหมือนกับ S1E07 (ขัดแย้ง) / S3E08 (ตุ๊กตาฮินะ) / S4E02 (ตู้ปลา) / S5E07 (แม่ลักซ่อน) และก็เจอดีเหมือนหมดทุกคน และได้ข้อคิดแสนจะ Basic ที่ว่าไม่ควรจะเข้าไปในที่ๆ ต้องห้าม... (อย่างไรก็ดี นั่นเป็น Trick ของเรื่องสยองที่อยากจะให้เราเห็นว่า ถ้าเราฝ่าฝืนแล้วจะไปเจอความสยดสยองนั่นเองแหละครับ)
แต่ในตอนนี้... มีข้อคิดอีกหัวข้อหนึ่ง ก็คือเรื่อง "มิตรแท้ - มิตรเทียม" ครับ
ถ้าดูจากโทโมโกะกับอาคาเนะแล้วน่าจะเป็นคนที่มีนิสัย "ติดเพื่อน" มากเกินไป จะทำอะไรก็เออออไปตามเพื่อน แม้เพื่อนจะไปทำผิดก็ไม่คิดจะเตือนเพื่อน ณ จุดตรงนี้ ถ้ารู้ว่ามันผิด ควรจะตักเตือนดีกว่า ถ้าดีออกสองตัวนั่นมันฝืน ก็ปล่อยให้มันไปเจอดี
ไม่ว่าจะติดเพื่อนอย่างไร ก็ต้องเอาความถูกต้องนำหน้าไว้ก่อนครับ ถ้าผิดก็ว่าไปตามผิด ถ้าเพื่อนดื้อดึงก็ถอยออกมา
แต่ตอนที่ดีออก 2 ตัวผลักโทโมโกะล้มลงพร้อมเยาะเย้ย และอาคาเนะยังอยู่ข้างพวกมัน ทำให้ผมหัวร้อน เพราะผมก็ประสบเหตุแบบนี้มาในวัยเรียน พอมันเข้าไปแล้วโดนผีหลอกเข้าไปนั่นพอสะใจอยู่...
แต่อาคาเนะถูกผีสิงหักหลังโทโมโกะนั้น ตอนแรกก็เชื่อว่าถูกผีเข้าสิงจนคอบิด แต่สะดุดตรงที่ว่าทำไมถึงรู้จักชื่อของสองตัวและโทโมโกะนั่น... แต่ก็เข้าใจว่า วิญญาณร้ายได้ยินชื่อก็เลยรู้ว่าใครเป็นใคร และฉากที่อาคาะเนะถูกผีเข้าสิงและออกไปนั่น เหมือนจะเป็นจุดที่ทิ้งให้คิดว่าจะเป็นยังไงต่อไป
มันเหมือนกับว่า "ถ้ำโทโมนาชิ" เข้าไปแล้วจะ "เสียเพื่อน" ตามตัวคันจิของชื่อตอน
แต่ผมเรียกใหม่ว่า "ถ้ำทิ้งเพื่อน" เพราะเหตุการณ์ในตอนนี้แสดงให้เห็นถึงการหักหลังเพื่อน เวลามีภัย นั่นเอง
วิญญาณร้ายที่เข้าสิงนั้น อาจจะตายในลักษณะเดียวกัน แล้วมาเป็นวิญญาณสิงร่างอาคาเนะเพื่ออกไปจากถ้ำ คาดว่า เมื่อออกไปแล้ว ผีอออกจากร่าง และอาคาเนะจะต้องใช้ชีวิตในวัยเรียนแบบ "ไร้เพื่อน" ราวกับว่า ผีในตอนนี้สั่งสอนทั้ง 4 คนโดยที่...
โทโมโกะ ติดเพื่อนมากเกินไป -- ตายอย่างน่าเสียดาย
ดีออก 2 ตัว เห็นแก่ได้ ชอบแกล้งคนอืน ซึ่งเป็น Bully -- สมควรตาย!!
อาคาเนะ คบเพื่อนจนลืมความถูกต้อง -- กลายเป็นคนไร้เพื่อน หรือไม่ก็ตายเพราะคอบิด
ผมอาจจะเปรียบเทียบตัวเองเป็นคนถูกกระทำแบบ โทโมโกะ ก็ได้ แต่ถ้าสมมุติว่าผมจะเป็นใครในตอนนี้ ขอเลือกสมมุติเป็นผีมาคอยสั่งสอนกับคนที่เคยรังแกผมเหมือนดีออก 2 ตัวนั่น แต่เลือกที่จะไม่สิงอาคาเนะ และจะคอยจะลากพวก Bully ไปตายตกนรกในถ้ำแบบนี้แหละ
ถ้าพูดถึงความน่ากลัวของตอนนี้
ฉากที่ผีเข้าสิงอาคาเนะนั่นแหละคือความพีคที่สุดของตอน ทั้งๆ ที่เข้าใจอยู่ว่า เรื่องราวจะต้องดลจิตในตัวละครไปเจอความสยองขวัญให้เราได้ดูกัน ไม่รู้ว่าฉากนั้น มันไม่หลอน หรือ ผมมีภูมิต้านทานความหลอนมากเกินไปหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ...
จะว่าไป ถ้ารู้ตัวว่าจะต้องไปเที่ยวถ้ำ ผมคงจะไม่กล้าเข้าไปในที่ๆ ต้องห้าม จะเข้าไปเฉพาะเขตที่ทางไกด์กำหนดไว้เท่านั้นก็พอ...
ที่ผมบอกว่าเป็นมุกเดิมๆ คือ จะเข้าไปในที่ห้ามเข้าทำไม น่าจะแบบว่า เผลอเข้าไปที่ไหนก็ไม่รู้ (โดยไม่ได้กำหนดว่าเป็นที่ห้ามเข้า หรือ ไม่ต้องให้ความรู้สึกว่าสถานที่นั้นไม่ควรเข้าไป) แล้วโดนผีหลอกน่าจะพีคกว่า ดังนั้นความน่ากลัวของตอนนี้อยู่ในระดับ 7 กะโหลก ครับ ซึ่งถือว่าใช้ได้ และเข้าใจว่า เนื้อเรื่องต้องการให้เราเห็นความน่ากลัวครับ
และทั้งหมดนี้คือ ตอนที่ 2 ของยามิชิไบ Season 6 ครับ ถือว่าน่ากลัวขึ้นมากว่าตอนที่แล้ว พวกเราคิดอย่างไร ตีความอย่างไร เชิญแสดงความเห็นได้ แล้วมาพบกันใหม่กับตอนที่ 3 ครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น