บันทึกการเล่น Undertale: (EP.09): บทสรุปเส้นทางแห่งสันติสุขในฉากจบแบบ True Pacifist Route


จากบทความที่แล้ว ได้เขียนถึงเรื่องราวการต่อสู้ในเส้นทางการเล่นแบบ True Pacifist Route หลังจากจบการต่อสู้ พบว่า ยังมีอะไรที่น่าสนใจซุกซ่อนไว้อยู่ ก่อนที่จะจบเกมนี้ไป...  ในบทความนี้จะเป็นบทสรุปของเส้นทางแห่งสันติสุข ที่จะได้รับฉากจบที่แท้จริงของเกมครับ

แน่นอนครับว่า บทความนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่เคยเล่นมาแล้ว ผมเชื่อว่าเกมนี้ ผ่านมา 4 ปี คิดว่าคงมีคนเคยเล่นกันไปหมดแล้ว และผมเล่นจบซ้ำไป 3-4 รอบ ผมขอย้ำอีกครั้งว่า บทความนี้ จะสปอยหมดจดถึงตอนจบที่แท้จริงของ Undertale ถ้ายังไม่เคยเล่นเกมนี้ แล้วอยากเล่นจริงๆ ผมแนะนำให้ไปซื้อมาเล่นแบบไม่ต้องไปดูเฉลย จนกว่าเกมจะขึ้นว่า THE END นะครับ


การอพยพกำลังจะเริ่มต้นขึ้น

ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า
หลังจากที่ Frisk และเหล่าสัตว์ประหลาดได้สติกลับคืนมา ตัวละครหลักทุกคนเริ่มรู้จักชื่อของ Frisk อย่างเป็นทางการ ซึ่งเราสามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนกับทุกๆ คน ซึ่งคุณ Sans จะแสดงความคิดเห็นในตอนที่เราเคยทำอะไรกับ Toriel ในช่วงแรกสุด (เคยจีบ หรือเรียก "แม่" และอื่นๆ) และพูดคุยสัพเพเหระเรื่องที่จะออกไปจากดินแดนใต้ภิภพ และทุกคนจะชักชวนให้เราลองเดินย้อนกลับไปดูเหล่าสัตว์ประหลาดตามจุดต่างๆ เพื่อเป็นการอำลา

Dr.Alphys ได้อัพเกรดโทรศัพท์ของ Toriel ให้สามารถพิมพ์ข้อควมส่งหากันได้ นั่นจะทำให้เราสามารถเช็คการส่งข้อความของเธอได้ตลอดในช่วงเวลาที่เราเดินย้อนกลับไปดูตามจุดต่างๆ

สถานการณ์นี้ เพลงบรรเลงด้วยคีย์ A major จะเป็น "รางวัลแห่งความซาบซึ้ง" จากการที่เราเลือกเล่นในเส้นทางแห่งสันติสุข (ซึ่งตอนเล่นใหม่ๆ จะช้ากว่า) และจะบรรเลงแบบนี้ไปตลอดทั้งฉาก จนกว่าเราจะเข้าสู่ฉากจบครับ


โลงเปล่าที่เหลือแต่ผ้าพันมัมมี่
จุดแรกที่ลงไปสำรวจ คือที่เก็บโลงศพที่ Asgore ช่วงชิงวิญญาณเอาไว้ จะพบว่าโลงศพอื่นๆ ฝาเปิดออกหมดแล้ว คาดว่า หลังจากวิญญาณกลับเข้าร่าง ก็ฟื้นขึ้นมาและหนีออกไปจากโลกใต้ภิภพหมดแล้ว ซึ่งนี่เป็นการคาดเดาของผม แต่ที่แน่ๆ โลงศพของ Chara นั้น ถ้าสำรวจอีกที จะรู้ว่าเป็นแค่โลงเปล่าๆ ที่ใต้ฝาโลงเป็นแค่ผ้าพันมัมมี่เล็กๆ เท่านั้นเอง






ทุกอย่างกำลังจะปิดตัวลง

โรงแรม MTT Resort ประกาศหยุดให้บริการ

แขกที่ไม่เคยเห็นหน้า
เมื่อเราเดินกลับไปยัง MTT Resort พนักงานประกาศหยุดให้บริการ เพื่อเป็นการย้ายออกจากโลกใต้ภิภพถาวร เราจะเห็นภารโรงกำลังเก็บกวาดอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ เรายังสามารถสำรวจลูกค้าที่อยู่ในห้อง ซึ่งจะแสดงผลว่าเราเคยเอาไอเท็มไปให้ลูกค้าที่มองไม่เห็นนั้นหรือเปล่า?






Burgerpants ที่ยังคุยกับเรา
ด้วยท่าทางแปลกๆ เหมือนเดิม
เมื่อเราคุยกับ Burgerpants คนขายอาหาร เราได้ฟังเรื่องราวของเกี่ยวกับการอพยพและเพื่อนๆ ซึ่งเขาได้พูดถึง Bratty กับ Catty (ตัวจระเข้กับแมวสาว ที่ขายของข้างทาง) ว่าเขาเคยทำเรื่องอับอายด้วยการเผลอทำกางเกงหลุดต่อหน้าสองสาวนั้น และสองสาวกำลังจะพาไปเที่ยวด้วยกันรวมไปถึง Nice Cream Guy (คนขายไอติม) 

แต่ตอนนี้เขากำลังจะรู้สึกสบายใจ เมื่ออกไปจากที่นี่ คงจะแยกย้ายและไม่ได้เจอกันอีก แต่จากนี้เขาคงจะได้เป็นดาราดังเต็มตัวสักทีหรือไม่ก็ขายแฮมเบอร์เกอร์เหมือนเดิม


อีกคนชอบเลี้ยงแมว และอีกคน
ชอบ "กินแมว!?!?"
เมื่อเราไปคุยกับ Bratty กับ Catty ที่ร้านมุมตึก ซึ่งทั้งคู่ก็เตรียมตัวที่จะอพยพด้วยความดีใจ โดยเฉพาะ Catty จะได้ออกไปหา "แมว" มาเลี้ยง  (ไม่ต้องงนะ ในที่นี้ก็คือ "แมวเลี้ยงแมว")  ซึ่งทั้งคู่ชอบแมวมวก Catty บอกว่าแมวน่ารักน่าเลี้ยง แต่ Batty บอกว่าแมวมันอร่อยดี (เอ๊ะ!? ยังไง!?)

จะว่าไป ตอนที่ผมเล่นในช่วง Neutral Route ครั้งแรกนั้น ผมยังไม่เคยมาสำรวจพูดคุยกับสองสาวนี้มาก่อน ซึ่งสองสาวนี้มีกุญแจปริศนาให้เราซื้อไปไขประตูที่ใดที่หนึ่งอีกด้วย 




คนขายไอติมรู้สึกตื่นเต้น
ที่จะได้ไปขายบนพื้นดิน
เมื่อเราเดินออกมาจาก MTT Resort ไปยังจุดปากทางเข้า ไปคุยกับ Nice Cream Guy คนขายไอติม เขาบอกว่ารู้สึกตื่่นเต้นที่ได้ไปขายไอติมบนพื้นดิน และยังได้แสดงความเห็นถึงไอติมที่เคยขาย ขึ้นอยู่กับตอนนั้นเราเคยซื้อไปมากน้อยเท่าไหร่? ถ้าผม Reset ไปเล่นอีกครั้ง ผมจะซื้อให้เยอะๆ ครับ

ในช่วงของ Neutral Route นั้น การ Spare ให้กับ Royal Guard ส่งผลให้สองคนนั้นเหมาซื้อไอติมจากเขาไปทั้งหมด จึงเป็นเหตุที่ทำให้เราไม่สามารถซื้อไอติมจากเขาได้ในจุดนี้ แต่เป็นผลพวงที่ได้ ที่ทำให้คนขายไอติมมีกำลังใจในการทำกิจการของเขาต่อไปนั่นเอง


หล่อนจะพาแมงมุมทุกตัวออกไปให้หมด
ในส่วนของรังแมงมุม เมื่อเราได้คุยกับ Muffet อีกครั้ง หล่อนก็ได้แสดงความคิดเห็น ถึงสิ่งที่เราเคยต่อสู้หรือซื้อของจากหล่อนในช่วง Neutral Route ถ้าในตอนนั้นเราซื้อของจากเธอซึ่งขายในราคาอภิมาหาแพงโคตรๆ จะทำให้เราข้ามการต่อสู้โดยอัตโนมัติ และนั่น หล่อนจะถอยรถลีมูซีนไปรับแมงมุมทุกตัวออกไป

เอาเป็นว่า... ผมเข้าใจหล่อนว่าทำไมถึงต้องขายของแพงมหาศาล ก็หล่อนเป็นนางพญาแมงมุม ที่ต้องใช้เงินเลี้ยงดูแลเพื่อลูกหลานของหล่อนนั่นเอง... (เหงื่อตก)


"ัฉันไม่ได้รักเธอรู้ไหม?"
ใน Hotland ก็ยังมีเหล่าสัตว์ประหลาดหลายตัวได้พูดคุยถึงเรื่องการอพยพ และบางตัวก็มีการสารภาพอะไรบางอย่าง อย่างเครื่องบิน Tsunderplane ที่เล่นคำจาก Thunderplane ไปผสมกับคำญี่ปุ่นว่า "ซึนเดเระ" (ツンデレ)

จะว่าไป เหมือนผมจะเป็นคนที่รับมุกตลกยาก เพราะช่วง Neutral Route นั้น ผมได้มองข้ามความตลกของเกมนี้ไปเยอะมาก ที่รู้สึกได้จริงๆ คงจะเป็นเครื่องบินซึนเดเระลำนี้...!?



ออกไปสู่อิสรภาพ

คุณผีกับ Mettaton
ความดีใจต่ออิสรภาพที่ได้รับ
พอเราไปเยี่ยมเป็นจุดๆ ไปยังโซนน้ำตก เราจะเห็นคุณผี ยืนคู่กับ Mettaton ในร่าง EX ซึ่ง Dr.Alphys ได้ต่อแขนขาจนสมบูรณ์ เจ้าตัวได้ขอบคุณต่อ Frisk ใน(ความสนุก)ที่ผ่านๆ มา ซึ่งเจ้าตัวรู้สึกว่า การได้เป็นอิสรภาพช่วยทำให้เขาได้ไปสัมผัสแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นสปอตไลต์ที่ยอดเยี่ยมที่สุด และจะรันวงการบันเทิงของตัวเองด้วยการชวน Shyren (น้องปลาขี้อาย) มาเป็นนักร้องเสียงประสาน และ ชวนคุณผีมาทำการมิกซ์เสียงเพลง พร้อมที่จะออกอัลบั้ม อีกทั้งยังปรึกษากับ Frisk เรื่องเกี่ยวกับสินค้าในแบรนด์ของตัวเองด้วย


บ้าน Undyne ก็ยังไฟไหม้ไม่มอดดับ...
คุณผีกับ Mettaton เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ซึ่งบ้านทางขวานั้นเป็นบ้านของ Mettaton นั่นเอง ในที่นี่ หากเราไปซื้อกุญแจปริศนาจาก Bratty กับ Catty มา เราจะไขประตูบ้านของ Mettaton ได้ ซึ่งข้างในจะมีไดอารี่วางเรียงราย มักจะเป็นเรื่องราวความสนใจในวงการบันเทิงของ Mettaton กับ Dr.Alphys รวมไปถึงที่มาที่ไป ที่ Dr.Alphys สร้างหุ่นยนต์ Mettaton ขึ้นมาอีกด้วย

ในขณะที่สำรวจจุดอื่นๆ ทุกคนก็ได้พูดถึงอิสรภาพที่จะได้ออกไปจากที่นี่ โดยเฉพาะน้องหัวหอมใหญ่ ลุงเต่า รวมไปถึง เหล่าแมว Temmie ก็ดีใจที่กำลังจะได้ออกไปข้างนอกกันแล้ว


แก๊งสุนัขที่รวมญาติหน้าห้องสมุด
เมื่อย้อนกลับไป Snowdin เมืองหิมะ ไม่ว่าจะเป็นห้องสมุดก็ดี ในร้าน Grillby's ก็ดี ผู้คนก็ดี ทุกคนได้พูดถึงเรื่องจะย้ายออกเพื่อไปยังพื้นใช้ชีวิตบนพื้นดิน สังเกตดีๆ เราจะเห็นเหล่า Amalgamates (ที่เกิดจากการทดลองที่ผิดพลาดของ Dr.Alphys) ได้กลับไปอยู่กับครอบครัวอย่างมีความสุขอีกด้วย

แต่พอไปคุยกับพี่หมีการเมือง (ที่ยืนอยู่หน้าร้าน Grillby's) ก็ได้ยินเรื่องราวที่ Dr.Alphys สารภาพผิด ต่อ Asgore กับ Toriel ถึงการทดลองที่ผิดพลาดในการฉีด Determination เข้าสู่สัตว์ประหลาดที่ใกล้ตายหวังฟื้นคืนชีพ แต่ร่างละลายหลอมรวมเป็น Amalgamates ซึ่ง Asgore กอดเธอแน่น 


เจ้ากุ๊กไก่จำเราได้ว่า เราเคยช่วย
ตอนใกล้จะตกสะพานหรือไม่
แม้ว่า Toriel จะปลดเธออกจากตำแหน่งนักวิทยาศาสตร์ แต่ก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ แต่ตอนคุยกับพี่หมีนั้น พี่หมีบอก Toriel ไล่เธออก ซึ่งผมรู้สึกว่าบทสนทนานี้ดูแรงไป ผมคาดว่า Toriel คงจะใช้วิธีให้ออกด้วยคำพูดที่ปลอบประโลมมากกว่า อีกทั้ง Dr.Alphys ยังช่วยอัพเกรดโทรศัพท์ให้ส่งข้อความได้อีกด้วย 

เจ้ากุ๊กไก่ กลับมายืนอยู่ข้างต้นคริสต์มาสเหมือนเดิม และยังจำได้ว่าเราเคยช่วยตอนที่กำลังจะตกจากสะพานหรือไม่? ซึ่งผมคาดว่าหลายคนที่เล่นเลือกที่จะช่วยไว้ แต่ถ้าไม่ช่วย ก็อาจจะทำให้เกมกร่อยได้นะครับ



คุณกระต่ายยังไม่ได้วางแผน
ที่จะย้ายร้านออกไป
เมื่อเราคุยกับคุณกระต่ายที่ร้านขายของชำ เธอได้เล่าถึงความรู้สึกแปลกๆ (ในช่วงที่เราสู้กับ Asriel) ว่ามีอะไรบางอย่างดึงออกไปจากร่างกาย และกลับเข้าสู่สภาวะปกติ เมื่อรู้ว่าเกราะกำบังถูกทำลาย เธอมีความกังวลเล็กน้อยเรื่องการเตรียมตัวที่จะย้ายร้านออกไปสู่พื้นดินเบื้องบน เพราะยังไม่ได้เตรียมแผนเอาไว้

เธอก็รู้สึกเหลือเชื่อ เมื่อได้ยินข่าวว่า Toriel เดินออกมาจากประตูใหญ่ในเขตซากปรักหักพัง ซึ่งหลายคนยังไม่ทราบว่า Toriel อยู่อาศัยที่นั่นเป็นเวลานานจนลืมเวลาเลยก็ว่าได้... นั้นเป็นคำบอกไบ้ของเกมว่าตอนนี้เราสามารถกลับไปสำรวจในซากปรักหักพังได้...


"ถือหิมะให้หน่อยนะ..."
การเดินกลับไปซากปรักหักพังนั้น ไกลเอาการ เพราะไม่มีจุดวาร์ป ก่อนที่จะถึงประตูนั้น ได้มีการแวะไปเยี่ยมตุ๊กตาหิมะ ที่เคยขอให้เราถือหิมะส่วนหนึ่งออกไปยังภาคพื้นดินเอาไว้

ในช่วงตอนจบของ Neutral Route นั้น หากเราถือชิ้นส่วนหิมะตอนออกไป คุณ Sans จะชมว่าเราช่วยทำให้ตุ๊กตาหิมะมีความสุข ถ้าในตอนนี้เรายังมีชิ้นส่วนนั้นอยู่ในมือ เขาก็ขอให้เราถือออกไปสู่พื้นดินด้วย ดังนั้น เราไม่ควรจะกินชิ้นส่วนหิมะนี้ไปตลอดทั้งเกม ถ้าทำหาย หรือกินต่อหน้า ก็จะทำให้บรรยากาศของเกมกร่อยสุดๆ ครับ


จุดเริ่มต้นในตอนจบ

ประตูซากปรักหักพังถูกเปิดออก
ยังไงๆ Frisk ก็คือ Frisk อยู่วันยังค่ำ
ประตูซากปรักหักพังถูกเปิดออก ทำให้เรากลับไปยังพื้นที่แรกของเกมได้อีกครั้ง ซึ่งเราจะเห็นเหล่ากบที่ได้พูดถึงการออกไปสู่ภาคพื้นดินตามปกติ เมื่อเราไปสำรวจพื้นที่ในบ้านของ Toriel เราจะเห็นว่า พายที่เธอทำไว้ ถูกหมาแย่งเอาไปกินจนหมด เมื่อเรานอนลงเตียง จะพบว่าเตียงนั้นเล็กลงเพราะ Frisk เติบโตขึ้นนั่นเอง

ถ้าเรายังจำความในช่วงของ Neutral Route ได้ (ขอเล่าย้อนไปนิดหนึ่ง) ในตอนที่เราเคยสู้กับ Toriel แล้วเราขอออกด้วยการ Spare เธอซ้ำๆ เธอจะยอมให้เราออกโดยเธอบอกให้เราว่าจะไม่ต้องกลับมาอีก


Toriel ในจุดเริ่มเกม
(หลังจบการต่อสู้ใน Neutral Route)
แต่ถ้าเราเดินย้อนกลับไปเพื่อตามหาเธอ เราจะเจอเธอที่จุดแรกสุดที่เราเริ่มเกม ที่เธอพูดด้วยความใจดีว่า "ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอกนะ เพราะจะต้องมีใครสักที่ดูแลดอกไม้เหล่านี้"

ซึ่งนี่เป็นสปอยความลับของเกมขนานใหญ่! เมื่อเราสู้กับ Asriel เสร็จแล้วเราเดินกลับไปยังจุดเริ่มต้นเกมอีกครั้ง คราวนี้ เราจะเจอ Asriel ที่กำลังยืนดูแลดอกไม้





Asriel กับซุ้มดอกไม้
Asriel บอกกับ Frisk ว่า เขาไม่สามารถกลับไปได้ แม้ว่ายังจะมีเวลาคงร่างนี้อยู่ แต่ก็ไม่สามารถคงร่างได้ตลอด ปล่อยให้ทุกๆ คนลืมเขาไว้จะดีกว่า... เมื่อเรายังให้ Frisk คุยกับ Asriel เรื่อยๆ เขาจึงเริ่มเปิดใจกับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ Chara

ก่อนอื่น Asriel เริ่มถาม Frisk ว่าทำไมถึงตกลงมาที่นี่ ทั้งที่รู้กันอยู่ว่า ใครตกลงมาที่ก้นหุบเขา Ebott จะไม่สามารถรอดออกจากที่นี่ได้ แล้ว Frisk ปีนหุบเขามาที่นี่เพราะอะไร? ซึ่งไม่มีใครรู้ถึงเหตุผลในการมาที่นี่นอกจากตัวของ Frisk เอง (ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะเราเล่นเกมนี้ เราก็ไม่รู้อยู่ดีว่าทำไม Frisk ถึงมาที่นี่)

แต่ Asriel รู้ถึงเหตุผลของ Chara ที่มาที่นี่ ก็เพราะเจ้าตัวเกลียดมนุษย์ ซึ่งเป็นเหตุผลที่สุดแสนจะขมขื่นแต่เจ้าตัวก็ไม่ได้บอกเหตุผลว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น แต่เขาก็รับรู้ถึงความเกลียดชังต่อมนุษย์ที่มีในตัว Chara ได้ชัดเจน จนเขารู้สึกว่า Chara อาจจะไม่ใช่เพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับเขา แต่สำหรับ Frisk คือคนที่เขาอยากจะคบมากกว่า...

และสิ่งสำคัญสิ่งหนึ่งที่ Asriel ได้เปิดใจต่อ Frisk คือ หลังจากที่ Chara สละชีวิต เพื่อให้ Asriel ได้ดูวิญญาณ กลายเป็นร่างที่แข็งแรงกว่า และหลังจากนั้นวิญญาณของ Chara ควบคุมร่าง Asriel เอาร่างของตัวเองขึ้นไปยังหมู่บ้าน เพื่อนำไปวางไว้ที่ซุ้มสิ่งหยาบคาย เพื่อทำตามแผนของตัวเอง Asriel รู้แผนนั้นว่า Chara กำลังจะใช้พลังของเขาในการสังหารคนในหมู่บ้านที่เจ้าตัวเคียดแค้น จึงพยายามจะควบคุมตัวไม่ให้ทำแบบนั้น และปล่อยให้โดนจมตีและกลับมาตายในดินแดนใต้ภิภพ

นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ Asriel จะต้องกลายมาเป็นสิ่งหยาบคายที่เรียกว่า ดีออก Flowey แต่นั่นก็เป็นที่รู้กันว่า ดีออกเกิดขึ้นได้เพราะ Dr.Alphys ที่ทดลองฉีด Determination เข้าไป ซึ่งเราเองก็จะโทษเธอไม่ได้เช่นกัน เพราะการทดลองอะไรบางอย่างเพื่อหาคำตอบนั้น อาจจะได้ผลลัทธ์ที่ไม่ได้คาดคิดก็ได้ และกว่าที่จะได้การทดลองที่สำเร็จนั้น ก็อาจจะผ่านความผิดพลาดล้มเหลวมานับไม่ถ้วน

การที่ Asriel ต้องมาเป็นดีออก Flowey ดอกไม้ไร้วิญญาณที่ไม่สามารถรับรู้ถึงความรู้สึกได้นั้น จึงทำเรื่องเหลวไหลเลวร้ายไว้มากมาย รวมไปถึงตั้งวลี "โลกนี้จะต้องฆ่ากับถูกฆ่า" แต่เมื่อได้รู้จักกับ Frisk แล้ว เขารู้สึกไม่เสียดายกับสิ่งที่ทำลงไป เพราะถ้าตอนนั้นเขาปล่อยให้ Chara ใช้พลังของตัวเองในการฆ่าคนในหมู่บ้าน อาจจะต้องเกิดสงครามระหว่างมนุษย์กับสัตว์ประหลาดอีกครั้งเป็นแน่


"อย่าฆ่าใคร และ อย่าให้ใครมาฆ่าเรา"
หลังจากนี้ Asriel ขอให้ Frisk ไปกับเพื่อนๆ ที่รักตัวเขาจริงๆ ถ้าในวันข้างหน้าได้เจอเขาอีกครั้ง ก็ไม่ต้องคิดว่าเป็นตัวเขาอีก...  และขอให้ระวังไว้ด้วยว่า บนพื้นดินโลกนั้นมี(คนแบบ)ดีออก Flowey อยู่มากมาย ซึ่งการแก้ปัญหาด้วยสันติอาจจะใช้ไม่ได้ผลเสมอไป เขาได้ทิ้งท้ายไว้ว่า "อย่าฆ่าใคร และ อย่าให้ใครมาฆ่าเรา" และขอบคุณ  Frisk ที่ฟังการเปิดใจของเขาจนนาทีสุดท้าย...





พร้อมที่จะออกไปหรือยัง?
หลังจากที่เราได้พา Frisk ไปพูดคุยและบอกลาเหล่าสัตว์ประหลาดทั้งหมด รวมไปถึงการพูดคุยเหล่าตัวละครหลักจนเสร็จสิ้น เราสามารถเดินออกไปจากโลกใต้ภิภพได้ทันที ซึ่งเกมจะถามเราอีกครั้งว่าเราพร้อมหรือยัง ถ้าเราออกไปแล้ว เหล่าสัตว์ประหลาดทั้งหมดก็จะออกไปพร้อมกัน...






กลับสู่โลกอันกว้างใหญ่

แสงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้า
ฉากสุดท้ายของเกม เป็นฉากที่ทุกคนยืนบนผืนแผ่นดินของโลกแล้ว ซึ่งได้ชมความงดงามของพระอาทิตย์ที่กำลังจะตกดิน Asgore บอกว่านี่เป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ในการสานสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสัตว์ประหลาด และได้ถาม Frisk ว่าจะเป็นตัวแทนแห่งภูติสัมพันธ์ไมตรีหรือไม่ ในที่นี้ผมตอบใช่ ไม่ว่าเราจะเป็นอะไร เรารักกันไว้เพื่อความเป็นสันติสุขครับ


แยกย้าย เดินทางไปตามเส้นทางตัวเอง
ทุกๆ คนเริ่มทยอยแยกย้ายออกไปทำตามสิ่งที่ตัวเองชอบ จากสิ่งที่ได้พูดคุยกันเอาไว้ เมื่อ คุณ Sans Papyrus Undyne และ Alphys แยกย้าย ดูเหมือนว่า Asgore อยากจะพูดอะไรบางอย่างเพื่อจะขอคืนดีกับ Toriel แต่เธอยังส่งสายตาที่เย็นชา Asgore จึงเดินออกไป แต่เธอยังยืนมองในตอนนั้น

Toriel รู้สึกว่าทุกคนกำลังจะมีความสุขกับชีวิตใหม่ และย้อนกลับคุยกับ Frisk ว่าตัวเขามาจากโลกนี้ใช่ไหม เมื่อได้ออกจากโลกใต้ภิภพ คงจะต้องกลับไปอยู่ในที่ๆ ของตัวเอง และถามว่า Frisk จะทำอะไรต่อจากนี้ ซึ่งเกมจะถามเราว่า จะให้ Frisk อยู่กับ Toriel หรือให้ Frisk กลับไป


จะให้ Frisk อยู่กับ Toriel หรือกลับไป?
สำหรับคำตอบสุดท้ายนั้น ผมให้ Frisk กลับไป เพราะ Frisk อาศัยอยู่ในพื้นดินมานาน แม้ว่าเหล่าสัตว์ประหลาดจะใจดีมากแค่ไหน เรารู้สึกรักเหล่าสัตว์ประหลาดเหล่านี้ถึงขั้นเสียดายมากแค่ไหน งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา Frisk ควรจะกลับไปในที่ๆ ตัวเองเคยอยู่ แม้จะไม่รู้ว่าประวัติและครอบครัวของ Frisk เป็นเช่นไร แต่เชื่อว่า Frisk กลับไปพร้อมกับเพื่อนใหม่และความทรงจำดีๆ แม้ว่าจะห่างไกลกัน ก็ยังสามารถติดต่อกันได้และยังมีโอกาสที่จะได้เจอกันอีก




"แล้วเจอกันใหม่นะ"
เมื่อเราเลือกให้ Frisk กลับไป Toriel บอกจะไม่เป็นไรและคงจะไม่รั้ง Frisk ไว้ และบอกลาด้วยความหวังว่าจะได้เจอกันในวันข้างหน้า ก่อนเดินออกไปให้เหลือแต่ Frisk คนเดียวก่อนเข้าสู่ฉากจบ

ในกรณีที่เราให้ Frisk อยู่กับ Toriel เธอแซวว่า Frisk น่าจะอยู่ในบ้านเธอโดยไม่ออกไปไหนตั้งแต่แรก และเธอสัญญาว่าจะดูแล Frisk เป็นอย่างดี ก่อนจะจูงมือ Frisk ออกไปจากฉากด้วยกัน




THE END

ช่วง End Credit
เข้าสู่หน้าจอ End Credit เกมจะแสดงความเป็นอยู่ของเหล่าสัตว์ประหลาดที่เคยต่อสู้ทั้งหมดว่าเป็นอย่างไร โดยจะแสดงเหตุการณ์ด้านล่างเป็นข้อความสีขาวและสีเหลือง ขึ้นอยู่กับว่าตอนต่อสู้เรา ACT อะไรไปบ้างก่อนที่จะ Spare ออก ซึ่งสีเหลืองนั้น หมายถึงเหล่าสัตว์ประหลาดอาจจะพึงพอใจหรือคิดอะไรบางอย่างได้จากสิ่งที่เราได้ ACT ไป

ส่วนเหล่าตัวละครหลัก ก็ได้ไปทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบ เริ่มจาก Papyrus ได้ขับรถสปอตบนทางด่วน แต่ถูกคุณ Sans แกล้งด้วยการปั่นจักรยานสามล้อแซงตัดหน้า
ความสุขของเหล่าตัวละครที่ได้ใช้ชีวิตบนดิน
Undyne กับ Dr.Alphys ได้ไปเดทกันริมชายหาด ในขณะที่ Dr.Alphys เล่นเกมบอยอยู่นั้น Undyne ค่อยๆ ขยับตัวมาจุ๊บแก้ม ทำให้นางหัวเราะชอบใจที่เธอเขินจัดจนเป็นลมล้มไปเหมือนคนที่ตายอย่างสงบศพสีชมพู 555+  ส่วน Mettaton พาทีมของตัวเองไปโชว์การแสดงบนเวที โดยมีเหล่าเพื่อนๆ มานั่งดูการแสดงด้วยกัน 

ขณะนั้น Asgore ได้มาจัดแต่งสวน และดัดไม้เป็นหัวของ Paryrus ซึ่งตั้งไว้ที่ด้านหน้าทางเข้าโรงเรียนที่ Toriel เป็นคุณครูเจ้าของโรงเรียนแห่งใหม่ ซึ่งแสดงฉากที่เจ้ากุ๊กไก่กำลังเข้าไปเรียน


ในที่สุด ก็ถึงหน้าจอที่ขึ้นคำว่า THE END สักที แต่ทว่า...!?





"คิดว่าจะจบแค่นี้เหรอ!?"
"ฉันหมายถึงว่าเรายังไม่ได้ดู Special Thanks กันเลยนะ"
Asriel โผล่มาทักทายว่าแค่นี้จะจบแล้วหรือ? แต่สุดท้ายก็หลอกให้เราตกใจเล่น... (เหงื่อตก) ซึ่ง Asriel ได้แนะนำ "เกมพิเศษ" ให้เราอีกครั้งก่อนที่จะจบจริงๆ ซึ่งเป็นเกมแสดงความขอบคุณต่อรายชื่อที่บริจาคในช่วงแคมเปญสร้างเกม Undertale เมื่อปี พ.ศ.2556 ซึ่งเราจะได้บังคับหัวใจเราอีกครั้งโดยมีค่าพลังที่ไม่จำกัด โดยที่เราจะต้องหลบรายชื่อเหล่านั้นไปให้ครบ ถ้าถูกชื่อนั้น ก็จะกลายเป็นสีเหลือง


เกม Last Goodbye และข้อความขอบคุณจาก Toby Fox และทีมสร้างเกม Undertale
หลังจากนั้นจะแสดงรายชื่อที่โดนหัวใจของเรา ว่ากันว่า ถ้าหลบรายชื่อเหล่านั้นได้หมด ประตูปริศนาจะถูกปลดล็อกออก ซึ่งตรงนี้ผมยังเคลียร์ไม่ได้สักที 555+ ไม่ว่าเราจะหลบได้หมดหรือไม่ เราจะได้พบข้อความขอบคุณจาก Toby Fox และทีมสร้างเกม และส่งคำว่าราตรีสวัสดิ์ก่อนจบเกม

ในที่สุดก็เข้าสู่ฉากจบ THE END ถ้าเราเลือกที่จะให้ Frisk กลับไป เกมจะแสดงรูปถ่าย Frisk ยืนอยู่กับเหล่าเพื่อนๆ สัตว์ประหลาดอย่างอบอุ่น ถ้าเราเลือกให้ Frisk อยู่กับ Toriel เกมจะแสดงฉากห้องนอนที่ Toriel นำพายมาวางไว้ขณะที่ Frisk หลับอยู่

เมื่อเข้าสู่ฉากจบแล้ว เราไม่สามรถกดปุ่มอะไรได้อีก นอกจากปิดเกม ในระหว่างนั้น เราจะเห็นหมาสีขาวเดินมาบอกลาก่อนที่จะหลับอยู่ตรงกลางล่างของฉาก เป็นอันเสร็จสิ้นการเล่นเกม Undertale โดยสวัสดิภาพ


THE END: ฉากจบในกรณีที่ให้ Frisk อยู่กับ Toriel

THE END: ฉากจบในกรณีที่ให้ Frisk กลับไป

และแล้ว ผมได้เล่นจบแบบ True Pacifist Route รอบแรก
เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2561 เวลาตี 2 นาฬิกา 54 นาที



ไม่เหลืออะไรอีกต่อไป

การกลับมาของ Flowey
ถ้าเราเปิดเกมขึ้นมาใหม่ เราจะเจอ Flowey อีกครั้ง (ซึ่ง Asriel กลายร่างกลับมาเป็นดอกไม้) Flowey ได้บอกเราว่า เมื่อเหล่าสัตว์ประหลาดได้อพยพออกไปอย่างมีความสุข ก็ไม่เหลืออะไรที่ต้องเป็นห่วงหรือเป็นกังวลในดินแดนนี้อีกแล้ว

Flowey กำลังคุยกับ "ผู้เล่น" อย่างเราโดยตรง ว่าเรานั้น ยังมีพลังที่จะ RESET ทุกอย่าง ถ้าใช้พลังนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่ถูกลบหายไปทั้งหมด กลับเข้าไปสู่จุดเริ่มต้นของเกม โดยเจ้าตัวขอร้องไม่ให้เราใช้พลังนั้น ปล่อยให้ Frisk และเหล่าสัตว์ประหลาดใช้ชีวิตอย่างมีความสุขจะดีกว่า

อย่างไรก็ตาม Flowey ยอมรับว่าคงจะเปลี่ยนใจเราไม่ได้ ถ้าเรายังคิดที่จะ RESET กลับไปเล่นใหม่ ซึ่งเจ้าตัวได้ขอโทษ เพราะคิดว่าเราคงจะได้ยินคำพูดนี้หลายๆ ครั้ง ซึ่งการ RESET ทั้งหมดนั้นจะลบความทรงจำของทุกๆ คนรวมถึง Flowey ด้วย เจ้าตัวจึงทิ้งท้ายว่าเจอกันใหม่อีกครั้งโดยเรียกตามชื่อที่เราตั้งไว้เป็นการส่งท้าย ก่อนจะกลับเข้าสู่หน้าจอเริ่มเกมตามปกติ


"แล้วเจอกันใหม่นะ..."
ไม่เหลือใครแล้ว นอกจากคำสั่ง
True Reset ที่สามารถกลับไปเล่นใหม่
ตั้งแต่ต้น
เมื่อเข้าสู่หน้าจอเมนู จะพบว่า "ทุกคนไปหมดแล้ว" ซึ่งเราสามารถโหลดเซฟเดิมเอาไว้เล่นแก้มือช่วงหลบรายชื่อ ซึ่งเราจะไม่เจอ Asriel ในฉากเริ่มต้นและไม่โผล่มาในช่วงก่อนเริ่มเกมหลบรายชื่ออีก 

และคำว่า Reset เปลี่ยนเป็นคำว่า True Reset ถ้าเราใช้คำสั่งนี้ หมายความว่าเราจะได้เริ่มต้นเกมใหม่ทั้งหมด เหมือนตอนที่เราพึ่งจะมาเล่นใหม่ๆ ซึ่งเราสามารถตั้งชื่อตัวละครใหม่ได้อีกครั้ง

ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเราว่า เราจะรักษาโลกของ Undertale ให้เหลือไว้แต่ความทรงจำดีๆ ด้วยการปล่อยทิ้งไว้แบบนี้ หรือเราจะ True Reset กลับไปเล่นซ้ำอีกครั้งเพื่อลองอะไรใหม่ๆ ในการขุดคุ้ยความลับอะไรแปลกๆ จากเกมก็ได้...

นั่นคือทั้งหมดของเกม Undertale กับเส้นทางการเล่นแบบ True Pacifist Route หลังจากที่ผมเล่นจบในเส้นทางนี้แล้ว ผมรู้สึกว่าได้ปลดล็อกตัวเองไปอ่านสิ่งต่างๆ ใน Wikia ได้อย่างเต็มที่ และหัวข้อต่อไป คือบทสรุปวีถีการเล่นให้จบแบบ True Pacifist Route ครับ



สรุปเงื่อนไขในการเล่นแบบ True Pacifist Route

หลังจากที่ผมได้อ่านบทความเกมบน Wikia ได้อย่างเต็มที่ ก็รู้สึกว่า เส้นทางการเล่นแห่ง True Pacifist Route เป็น "ฉากจบที่ถูกต้อง" ของการเล่นเกม Undertale ซึ่งเป็น "เกม RPG ที่สามารถเล่นจบได้โดยไม่ต้องมีใครตายแม้แต่คนเดียว" ผมยอมรับว่าเป็นอย่างนั้นจริงครับ และคิดว่า Toby Fox คงจะให้เราเล่นจบแบบนี้ครับ และผมได้สรุปเงื่อนไขการเล่นจบแบบ True Pacifist Route ดังนี้ครับ


1. ต้องไม่ฆ่าใครเลยในตลอดทั้งเกม

อย่าให้ LV กับ EXP เกินไปกว่านี้!
แน่นอนครับ ตามสโลแกนของเกมเลย ขอย้ำอีกทีว่า "Undertale เป็นเกม RPG ที่สามารถเล่นจบได้โดยไม่ต้องมีใครตายแม้แต่คนเดียว" เท่ากับว่า เราจะต้องคง LV.1 และค่า EXP เป็นศูนย์ตลอดทั้งเกม 

เมื่อเข้าฉากต่อสู้ อย่าแตะต้องกับปุ่ม FIGHT อย่างเด็ดขาด!! พยายามใช้ ACT อะไรบางอย่างจนชื่อสัตว์ประหลาดเป็นสีเหลืองพร้อมที่จะ Spare ได้ ถ้าหากเราเผลอทำสัตว์ประหลาดตายตัวเดียว ต้องโหลด Save เดิมมาใหม่ ถ้าเผลอ Save ไปแล้ว ก็ต้อง Reset กลับไปเล่นใหม่ครับ

 


2. ต้องไม่เคยเล่นจบ Genocide Route มาก่อน

คุณ Sans เขาหวังดีนะจ๊ะ
ก่อนที่ผมจะมาเขียนบทความนี้ผมเคยดูการเล่นแบบ Genocide Route มาแล้ว และลองเล่นเพียงแค่ครั้งเดียวแต่ไม่จบ ถ้าใครที่เล่นจบในเส้นทางนี้ จะพบกับหายนะอะไรบางอย่างที่ทำให้เกมกร่อยสุดๆ ไม่สามารถเจอฉากจบแบบ True Pacifist Ending ได้ในตลอดกาล... 

เหตุผลและรายละเอียดต่างๆ ผมจะเขียนไว้ในบทความหลังๆ นะครับ







3. ผูกมิตรกับตัวละครหลักด้วยการออกไปเที่ยวด้วยกัน

Papyrus ชวนเราไปเที่ยวกับ Undyne
ข้อนี้เป็นข้อที่สำคัญครับ นอกจากจะไม่ฆ่าใครแล้ว เรายังต้อง "ผูกมิตร" กับตัวละครหลัก เพื่อแสดงให้เห็นว่า ยังมีมนุษย์ที่ดีๆ ที่พร้อมจะเคียงข้างต่อเหล่าสัตว์ประหลาดเหล่านั้น ในทางการเล่นคือ ให้ไปผูกมิตรกับ Papyrus กับ Undyne หลังจบการต่อสู้ เมื่อสู้กับ Undyne เสร็จ ให้ไปรดน้ำใส่ในตอนที่นางล้มลงก่อนที่จะออกไปเที่ยวครับ

แต่ถ้าเราไปฆ่าใครมาก่อนที่จะสู้กับ Undyne เราจะไม่สามารถผูกมิตรกับ Undyne ได้เลย เพราะนางไม่อยากผูกมิตรกับฆาตกร ถ้าเป็นเช่นนี้ ต้อง Reset ไฟล์อย่างเดียวครับ

เมื่อออกไปเที่ยวด้วยกันแล้ว เราสามารถโทรคุยเป็นการช่วยเหลือระหว่างการผจญภัย, ส่วนคุณ Sans เราจะออกไปเที่ยวหรือไม่ก็ได้ ถ้าออกไปเที่ยวจะได้ฟังเรื่องราวเพิ่มเติม ส่วน Toriel กับ Mettaton นั้น แค่ Spare ก็จบแล้ว ไม่มีอะไรเพิ่มเติม, ส่วน Dr.Alphys นั้นจะมีในข้อที่ 4 และ 5 ครับ 


4. ต้องเล่นจบแบบ Neutral Route ก่อน

ถ้าสู้กับ Photoshop Flowey ผ่าน
ถือว่าได้เล่นจบใน Neutral Route
เมื่อเราไม่ฆ่าใครเลยและผูกมิตรกับตัวละครเสร็จเรียบร้อย ให้เล่นบทที่ 5 ตามปกติ ซึ่งเราจะได้ฟังเรื่องราวของ Asriel กับ Chara จากเหล่าสัตว์ประหลาด, รับคำตัดสินการกระทำจากคุณ Sans, เข้าไปต่อสู้กับ Asgore แล้วตามด้วย Photoshop Flowey เมื่อสู้เสร็จ จะขึ้นฉากจบแบบ Neutral Ending เพื่อดูผลการเล่นที่เราทำมาทั้งหมด

หลังจบการต่อสู้กับ Photoshop Flowey นั้น ถ้าเราเลือกไว้ชีวิตด้วยการ Mercy ซ้ำๆ Flowey จะหนีหายไป และจะโผล่มาบอกไบ้เกี่ยวกับเงื่อนไขที่ขาดไปในเส้นทางการเล่นแบบ True Pacifist Route ให้เรากลับไปเก็บเงื่อนไขต่อได้ ทั้งนี้ ถ้าเราไม่ฆ่าใครเลย เราสามารถโหลดไฟล์เดิมเล่นต่อได้ แต่ถ้าเราฆ่าใครแม้แต่คนเดียว เราจะต้อง Reset ใหม่ แล้วเล่นแบบไม่ฆ่าใครเลยและผูกมิตรใหม่อีกครั้ง

ถ้าเราย้อนกลับไปสู้กับ Asgore อีกครั้ง เราจะข้ามการต่อสู้กับ Photoshop Flowey และเข้าสู่ฉากจบแบบ Neutral Route ทันที โดยจะมีการเปลี่ยนแปลงบทสนทนาเล็กน้อย

ในเงื่อนไขนี้ทำเอาผมอึ้งไปเลย! เพราะผมพึ่งจะรู้ว่า ถ้าจะเล่นแบบ True Pacifist Route นั้น จะต้องจบ Neutral Route ก่อน เมื่อผมลองลบไฟล์ ลองเล่นใหม่ก็พิสูจน์ว่าเป็นจริงครับ ถ้าเราไม่ฆ่าใครเลย ผูกมิตรกับตัวละครเสร็จแล้ว ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกว่าเราจะเล่นจบในเส้นทางนี้เสียก่อนจริงๆ

จะซ่าอีกไหมดีออก!?
แต่ผมยอมรับครับว่า Neutral Route มีความสำคัญตรงที่เรื่องราวของ Asirel กับ Chara ซึ่งช่วยให้เราประติดประต่อที่มาในเรื่องราวต่างๆ และเข้าใจถึงการกระทำของเหล่าสัตว์ประหลาดได้ดีขึ้นครับ

จะว่าไป ผมก็ยังคงอิจฉาคนที่เล่นแบบไม่รู้อะไรมาก่อน เพราะ Neutral Route นั้นคือเส้นทางที่ "วัดใจ" ผู้เล่นได้ดีที่สุด ว่าเรานั้นเป็นคนแบบไหน ตัดสินใจแบบไหน จะได้ผลลัทธ์แบบนั้น เพราะฉากจบใน Neutral Route มีความหลากหลายมากที่สุด ทั้งนี้ คนที่เล่นแบบไม่รู้อะไรมาก่อน จะได้อรรถรสจาก Neutral Route ได้ดีที่สุดครับ


5.เดทกับ Dr.Alphys และทำเควสใน True Laboratory

เอาจดหมายของ Undyne
ไปส่งให้ Dr.Alphys
ถ้าเราเล่นจบแบบ Neutral Route ตามข้อ 4 ได้ ให้เรากลับไปที่บ้านของคุณ Sans กับ Papyrus ซึ่ง Undyne จะขอให้เราส่งจดหมายไปหา Dr.Alphys เมื่อทำเควสเดทกับ Dr.Alphys เสร็จ จะทำให้เราสามารถเข้าไปทำเควสใน True Laboratory ได้ 

นที่นี่ ถ้าเราขึ้นไปสู้กับ Asgore อีกครั้ง เราจะพบฉากจบ Neutral Route อีกแบบหนึ่งซึ่งจะได้เฉพาะหลังจากที่เราไปเดทกับ Dr.Alphys เท่านั้นครับ

เมื่อเราเข้าไปใน True Laboratory แล้ว เราจะไม่สามารถย้อนกลับเข้าไปข้างบนได้ จนกว่าเราจะทำเควสเสร็จ นั่นหมายความว่า เราเข้าสู่การเล่นแบบ True Pacifist Route เป็นที่เรียบร้อย สำหรับคนขวัญอ่อน ถ้าอยากจะอ่านเอาเรื่องราว ผมแนะนำให้เล่นในตอนกลางวันครับ

หลังจากจบเควส True Laboratory แล้ว ให้เราไปหา Asgore แต่คราวนี้เราจะได้สู้กับ Asriel แทน เมื่อจบการต่อสู้ เราจะได้ฉากจบแบบ True Pacifist Route แน่นอนครับ



แม้ว่าจะเล่นเกม Undertale จบลงไปแล้ว ถ้าผมกลับมา Reset เล่นเกมนี้อีกครั้ง ผมก็จะทำให้จบแบบ True Pacifist Route แบบนี้ไปตลอดครับ แต่เกมนี้ยังมีสิ่งซุกซ่อนไว้หลายๆ อย่าง ซึ่งเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจ รวมไปถึงเส้นทางการเล่นแบบ Genocide Route ซึ่งจะมีบทความที่เกี่ยวกับเกมนี้ต่อในภายภาคหน้าแน่นอนครับ


แหล่งอ้างอิง
- รายละเอียดการเล่นแบบ Ture Pacifist Route บนเว็บ Wikia
Undertale ลงลึก ฉบับ  True Ending -- จากเพจ ROCKTHEBLACKSTUDIO - GAME AND STORY
สรุป Undertale ฉบับสมบูรณ์โดย Sookphumgame (เน้นเนื้อเรื่องแบบ True Pacifist Route)



ความคิดเห็น