ยามิชิไบ ตอนที่ 9 น่าจะเป็นอีกหนึ่งตอนที่ฟังดูคลาสสิค กับการเอาลิฟต์มาทำเป็นเรื่องผีๆ และยามิชิไบก็เคยเอาเรื่องลิฟต์มาทำแล้วในตอนที่ 5 ของ Season ที่ 1 ที่ผมยังจำเพลง Auld Lang Syne ในท้ายตอนได้แม่นเลยครับ
และตอนที่ 10 นั้น คนไทยเราอาจจะยังไม่คุ้นเคยกับ "มังงะคาเฟ่" ซึ่งเป็นคาเฟ่ที่ให้อ่านหนังสือการ์ตูน มีทั้งมุมรวมและมุมส่วนตัวเล่นอินเตอร์เน็ตได้อีกด้วย
เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมไปรับงาน Freelance จนไม่มีเวลามาเขียนบล็อกครับ (ซึ่งผมเขียนเป็นกระทู้ลงพันทิปสำหรับตอนที่ 9 ไปก่อน) ดังนั้น บทความนี้จึงสรุปยามิชิไบควบ 2 ตอน สำหรับตอนที่ 9 และ 10 ครับ
ยามิชิไบ Season ที่ 7 ตอนที่ 9: ผู้หญิงในลิฟต์
เป็นเรื่องราวของหญิงสาวสวยคนหนึ่ง ที่กำลังออกไปทำงานตอนเช้าแล้วเจอหนุ่มหล่อถือถุงดำเข้ามาในลิฟต์ ซึ่งเธอไม่เคยรู้มาก่อนว่าจะมีหนุ่มหล่ออาศัยอยู่ในหอแห่งนี้... และเรื่องราวสยองขวัญนั้นเริ่มขึ้นในตอนลิฟต์ติด (อ่านบทสรุปได้ในกระทู้พันทิป)
เบื้องต้น ตอนนี้ถือว่าเป็นตอนที่น่ากลัวน้อยที่สุด แต่ก็ไม่ใช่ตอนที่หัวร้อนเหมือนตอนที่ 8 ถ้าพูดถึงความกลัว น่าจะเล่นกับคนที่กลัวที่แคบ และกลัวลิฟต์ติด และการที่ให้มาอยู่กับคนแปลกหน้านั้น ก็เพิ่มความไม่น่าไว้วางใจ
ซึ่งตอนนี้ก็ยังแฝงสิ่งที่น่าขบคิดได้ 3 แง่ ตามกระทู้พันทิปเลยครับ ซึ่งอันแรกก็ว่ากันตรงๆ ตามภาพที่เห็น ว่าผู้ชายคนนี้อาจเป็นฆาตกรฆ่าหันศพผู้หญิง แล้วห่อศพในถุงดำไปทิ้งถังขยะ ซึ่งนั่นคือการมองในแง่ของอาชญากรรม
 |
| ผีที่โผล่ในตอนนี้ ดูน่าสงสารมากกว่าน่ากลัว |
อีกแง่หนึ่ง ถ้ามองเป็นแง่ของความรัก การที่มีหนุ่มหล่อสาวสวยมาดำเนินเรื่อง ก็อุปมาอุปมัยของคนที่กำลังถูกทิ้ง เพราะเห็นฉากผีร้องไห้นี่ รู้สึกน่าสงสารแทนน่ากลัวเลย เวลาคนเราถูกบอกเลิกแล้วถูกทิ้งก็ไม่ต่างอะไรไปจากเศษขยะที่กำลังจะถูกทิ้งไปนั่นเอง
ส่วนอีกแง่หนึ่ง เป็นแง่แบบผีๆ ก็คือ ชายหนุ่มอาจจะฆ่าหญิงสาว และฆ่าตัวตายประชดรัก การที่หญิงสาวบอกไม่เคยเห็นหนุ่มหล่อมาก่อน ก็สามารถตีความได้ว่าผู้ชายคนนี้อาจเป็นผีก็ได้ และอาจจะฆ่าด้วยความหึงหวงรูปลักษณ์ที่สวย/หล่อ จึงหวงแหนถึงขั้นสละชีวิตไม่ยอมให้เป็นของใคร และทางหอก็อาจจะปิดเรื่องราวนี้ไว้ไม่ให้ใครรู้ก็ได้
ตอนแบบนี้ ผมว่าเหมาะต่อ Season 5 มาก เพราะน่าจะเป็นตอนที่เล่นกับความรู้สึกของผู้หญิงที่อยู่ในวัยหนุ่มสาวและหาแฟนมาคู่ชีวิตสักคน หลังจากที่ผมตั้งกระทู้พันทิปแล้ว ทำให้มีคนไปนึกถึงตอนที่ 5 ของ Season ที่ 5 อีกด้วย
ระดับความน่ากลัว : 💀💀💀💀🚫🚫🚫🚫🚫🚫 (4/10)
ระดับเนื้อหา : ★★★★★🚫🚫🚫🚫🚫 (5/10)
ระดับความชอบส่วนตัว : ❤❤❤🚫🚫🚫🚫🚫🚫🚫 (3/10)
รวมเป็น: 42/100
ยามิชิไบ Season ที่ 7 ตอนที่ 10: มังงะคาเฟ่
เป็นเรื่องราวของมัตสึเทระ ชายหนุ่มที่ได้งานเป็นพนักงานประจำมังงะคาเฟ่ เขาได้พบลูกค้าหญิงสาวที่มาตามหาตุ้มหูที่หายไป การปรากฎตัวของหญิงสาวผู้นี้ ทำให้เขาขนลุก เมื่อสอบถามและได้ยินเรื่องราวจากรุ่นพี่อุเมะดะ... (อ่านบทสรุปในกระทู้พันทิป)
กล่าวคือ เป็นเรื่องเล่าที่คลาสสิคมาก สมเป็น Urban Legend เลย และเป็นหนึ่งในตอนที่น่ากลัวสำหรับ Season นี้ เวลาเราไปดูหรือไปฟังเรื่องผี ก็ชอบเรื่องราวแบบนี้ ไปเจอผี และรู้ว่าทำไมถึงเป็นผี และทำไมถึงยังมาวนเวียนหลอกคน และมีจุดพลิกที่คาดไม่ถึงอีกด้วย
ซึ่งเป็น plot ที่แปลกดี ผู้หญิงอะไรยอมควักลูกตาของตัวเองไปขายเพื่อซื้อตุ้มหูราคาแพงๆ ได้แบบนี้ คาดว่ายามิชิไบคงจะทำ plot แบบนี้มาให้เราฉุกคิดและตีความเหมือนหลายๆ ตอน สำหรับตอนนี้ ผมเปรียบเปรยว่าเป็น คนที่ชอบอะไรหรูหรา อยากมีเหมือนคนอื่น ก็เลยทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้สิ่งนั้นมาแบบหน้ามืดตามัว ทำอะไรเกินตัวจนมองไม่เห็นสภาพที่เหมาะสมต่อตัวเอง
เมื่อเปรียบเทียบให้เห็นภาพ ก็เหมือนกับคนมีรถยนต์แพงๆ ทันสมัย เกิดความอิจฉา ก็เลยยอมขายสิ่งของสำคัญ ซ้ำยังไปกู้เงินข้างนอกมา และเอาไปลงทุนแบบผิดๆ พอรู้ตัวอีกทีก็เป็นหนี้ก้อนโต แถมยังสูญเสียสิ่งที่สำคัญไปอีกด้วย
หลังจากที่ดูเสร็จ มีความเห็นหนึ่งที่น่าสนใจ ผมขออนุญาตหยิบมาจากเว็บมาดังนี้ครับ
"เม็ดปาจิงโกะไม่ได้แพงขนาดนั้นหรอก ต่อให้อเล็กซานเดอร์ แมคควีนฟื้นคืนชีพมาทำเม็ดปาจิงโกะเป็นตุ้มหูแบรนด์เนมอย่างไรก็คงไม่ยอมขายลูกตาเพื่อได้มันมาหรอก"
"บางที อาจจะเหมือนสืออะไรบางอย่างนะ... เธออาจจะเป็นหนี้พนันจากปาจิงโกะอย่างหนักจนถูกเจ้าหนี้มาเฟียตามฆ่า แล้วเอาควักลูกตาออกไปขาย เสร็จแล้วเอาเม็ดปาจิงโกะไปประดับเป็นตุ้มหู เพื่อตักเตือนคนที่เป็นหนี้ปาจิงโกะให้ระวัง ถ้าไม่จ่ายจะเป็นแบบนี้" และทิ้งท้ายในวงเล็บว่า "ปาจิงโกะในญี่ปุ่นนั้นใหญ่ มีเงินสะพัดยิ่งกว่าการพนันในลาสเวกัสเสียอีก"
"ตอนนี้แค่สงสัยว่าทำไมเธอถึงมาสิงที่มังงะคาแฟ่แทนที่ร้านปาจิงโกะ เป็นสิ่งที่ลึกลับโดยแท้เลย"
ซึ่งเป็นความเห็นที่น่าสนใจมาก โดยการเอาลูกตุ้มหูที่คล้ายกับเม็ดปาจิงโกะมาเชื่อมโยงได้ และเป็นความเห็นที่สร้างน้ำหนักถึงเหตุผลที่เธอขายตาเพื่อตุ้มหูได้ ซึ่งชี้ได้เลยว่าคนที่เป็นผีพนัน ก็จะต้องพบจุดจบแบบไม่สวย ถ้าเอาความเห็นนี้มาเชื่อมกับสาเหตุที่มาสิงอยู่ในมังงะคาแฟ่ ซึ่งผมคิดเป็นดังนี้คือ เธอเป็นลูกค้าประจำ และถูกตามฆ่าที่นี่ก่อนที่พนักงาน 2 คนเข้ามาทำงานก็ได้
และมีอีกความเห็นหนึ่งที่แสดงความเห็นเกี่ยวกับด้านลบของพนักงานว่า "ถ้าเก็บของหายได้ก็ต้องเอาไปคืน หรือเอาฝากไว้ที่ตู้ของหาย พนักงานคนนี้ไม่ซื่อสัตย์เอาเสียเลย" อันนี้ผมเห็นใจและเห็นด้วยเลย เวลาคนทำของหายแล้วเก็บมาเป็นของตัวเองก็ไม่ต่างอะไรจากขโมยเลย ซึ่งผมจำได้ว่าเคยทำโทรศัพท์มือถือหาย แล้วไม่ได้คืนอีกเลย เศร้าสุดๆ
แต่สิ่งที่เขาเขียนความเห็นมานั้น รู้สึกได้เลยว่า พนักงานจะต้องเก็บรักษาของที่ลูกค้าหายไว้ ถ้าเกิดลูกค้าเอาเรื่องขึ้นมา ก็ทำทางร้านเสียหายแบบปลาเน่าตัวเดียวเหม็นไปทั้งข้องเลย...
 |
| ความจริงที่รุ่นพี่ไม่กล้าเล่าได้ |
อย่างไรก็ตาม ความกลัวของตอนนี้ ถือว่าเข้าถึงระดับ Season 1 ได้ดีเลยทีเดียว แม้ว่าฉากเตรียมจะนานไปหน่อย แต่ก็นานจนไม่รู้ว่าผีจะจู่โจมตอนไหน แถมการเอามาอยู่ในทีแคบแล้วผีจู่โจมก็ทวีความน่ากลัวให้กับคนที่ทำงานเกี่ยวกับห้องๆ หอๆ หรือทีแคบๆ ได้ หวังว่าตอนที่เหลือคงจะน่ากลัวแบบนี้ได้เช่นกันครับ
ระดับความน่ากลัว : 💀💀💀💀💀💀💀💀💀💀 (10/10)
ระดับเนื้อหา : ★★★★★★★🚫🚫🚫 (7/10)
ระดับความชอบส่วนตัว : ❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤ (10/10)
รวมเป็น: 91/100
ตอนนี้ยามิชิไบก็เหลืออีก 3 ตอนที่ได้รับชม หวังว่าอย่างน้อยก็ต้องมีตอนที่หวาดกลัวขนลุกขนชันได้อีก อีก 3 ตอนจะเป็นอย่างไร ก็ต้องติดตามกันต่อ แล้วผมจะมาวิเคราะห์แต่ละตอนเช่นเคยครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น