คำแนะแนวในการไปออดิชั่น CGM48 (และ BNK48 รุ่น 3 ในอนาคต)


เข้าสู่ช่วงแห่งการออดิชั่น ของ CGM48 แล้ว ภายในเดือนนี้ น้องๆ ทั้งหลายอาจจะยังลังเลที่จะไปสมัครอยู่หรือเปล่า หรือมีอะไรที่ค้างคาใจจนไม่กล้าไปสมัครหรือไม่ ในฐานะที่ผมเป็นโอตะวง BNK48 และ CGM48 ผมจึงเขียนบทความแนะแนวให้น้องๆ ได้อ่านเป็นแนวทางครับ


ภาพป้ายชื่อซิงเกิ้ลที่ 6 ของ BNK48 (C)2019 BNK48 Office
จากการที่ผมได้ติดตาม BNK48 ได้มานานพอสมควร ทำให้ผมมองเห็นเสน่ห์และความสามารถของสมาชิกแต่ละคนในหลายๆ ด้านที่นอกเหนือจากการร้องและการเต้น ซึ่งทุกคนล้วนมีเสน่ห์ในการตกพวกเรา หรือเมมฯ คนไหนที่มีความสนใจที่คล้ายคลิงกันก็มัดใจกลุ่มพวกเราเฉพาะกลุ่มอีกด้วย

อย่างเช่น แก้ว มีความสามารถในการเล่นเปียโน (จนเป็นครูสอนเปียโน), แนทเธอรีน ชอบดูบอล และสามารถวิเคราะห์บอลได้, จิ๊บ / วี มีความสามารถด้านเกมส์/E-Sport, เจน รำไทยได้,  ฟีฟ่า ร้องเพลงลูกทุ่งได้อย่างไพเราะ, ไข่มุก ทำขนมหวานเก่ง, โมบายล์ จำเนื้อร้องได้เยอะจนร้องเพลงได้หลายๆ เพลง, และปูเป้ (คามิของผม) ให้ความ Entertain พวกเราได้ไม่เหมือนใคร

คนอะไร!? (เสียงสูง) แค่ขยับก็ตกพวกเราได้แล้ว
ภาพจากคลิปสั้นๆ ของ เฌอปราง BNK48
 
หรือบางคนอาจจะยังไม่เห็นความสามารถเฉพาะทางที่ชัดเจนมากนัก แต่มีเสน่ห์ที่น่าดึงดูดมากมาย จนตกพวกเราให้เป็นโอชิได้... ขนาด เฌอปราง กัปตันวงที่เราๆ รู้กันว่าเป็นไอดอลสายวิทย์ฯ นั้น แค่ขยับนิดเดียวก็ตกพวกเราหลายหมื่นกว่าคนแล้ว (ขนาดผมเองโดนดาเมจจากแคปเฌอไปหลายร้อยรอบเหมือนกัน 555+)

พูดง่ายๆ คือ "ไอดอลมีความสนใจที่หลากหลายฉันใด โอตะก็มีความสนใจที่หลากหลายฉันนั้น"

นอกจากเป็นคนที่ความสามารถ หรือมีเสน่ห์ที่น่าดึงดูด ทัศนคติก็สำคัญเช่นกัน รวมไปถึงไหวพริบในการแก้ไขอุปสรรคต่างๆ เพราะการที่ได้มาเป็นไอดอลนั้น ต้องเจออะไรหลายๆ อย่าง และจะต้องพบปะกับผู้คนมากมาย ซึ่งเราจะต้องวางแผนในการรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น จะต้องจัดการตัวเอง และแบ่งเวลาให้สมดุลกับตัวเองทั้งเวลาเรียนและเวลาซ้อม...

โอกาสที่จะเข้าวงไม่ใช่ง่ายๆ เลย กว่า BNK48 หรือ CGM48 เปิดออดิชั่นนั้น คงจะต้องรอเวลานานพอสมควร ซึ่งอาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายของคนที่อายุเยอะแล้ว หากพลาดครั้งนี้ ก็ไม่รู้ว่าเรายังมีโอกาสอีกหรือไม่

ก่อนจะถึงช่วงออดิชั่น ก็มีคนมาตั้งกระทู้ถามใน Social มากมาย เกี่ยวกับการออดิชั่น ว่าจะต้องมีคุณสมบัติแบบไหน อย่างไร มีเงื่อนไขอะไร มีปัญหาเรื่องนั้น เรื่องนี้ จะเข้าไปได้ไหม แต่ละคนก็ได้คำตอบที่สมหวัง ผิดหวัง และเลือกตัดสินใจที่มาหรือไม่มา....

ผมจึงเขียนบทความนี้ เพื่อแนะให้เป็นแนวทางสำหรับน้องๆ ที่คิดจะออดิชั่นเข้า CGM48 หรือ BNK48 รุ่น 3 ในอนาคต ซึ่งผมได้แนะแนวตามหัวข้อต่างๆ ดังนี้ครับ

แนะนำให้ดูรายการ BNK48 SENPAI ทั้งรุ่น 1 และ 2

ไตเติ้ลรายการ BNK48 SENPAI ทั้งรุ่น 1 และ 2
(C)2017 BNK48 Office (C)2018 Workpoint Entertainment
เป็นคำแนะแนวแรกที่ ที่ผมผมแนะนำเป็นอย่างยิ่ง เพราะเราจะได้เห็นความพยายามของทั้งรุ่น 1 และ 2 ที่มุ่งมั่นจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ BNK48 ซึ่งทุกคนล้วนแสดงสิ่งที่ตัวเองมีให้กรรมการเห็น  ซึ่งเป็นแนวทางที่ชัดเจนที่สุด ว่าน้องๆ ควรจะทำอย่างไรให้เข้าตากรรมการมากที่สุด โดยเฉพาะเรื่องของความพยายามครับ ซึ่งสามารถกดเข้าไปดูคลิปด้านล่างนี้ได้เลยครับ

ก่อนที่จะส่งใบสมัคร อ่านกฎ-กติกา และคุณสมบัติที่สมัครได้ให้ครบถ้วนก่อน หากอ่านแล้วเกิดข้อสงสัย ให้ inbox ถามไปที่เพจของวงโดยตรงครับ ถ้าเรามีคุณสมบัติครบถ้วน เราสมัครได้ แต่ถ้ายังลังเลใจ ผมมีหัวข้อถัดไปที่จะแนะแนวให้ครับ

เราทุ่มเทที่จะอยู่กับวงได้มากแค่ไหน?

ภาพส่วนหนึ่งในห้องซ้อมสมัยรุ่นที่ 1 (จากช่อง BNK48 Official ของ YouTube)
ผมเชื่อว่า นอกเหนื่อจากความสามรถ เสน่ห์ที่ และความพยายามแล้ว กรรมการและผู้บริหารอาจจะวิเคราะห์ว่า น้องๆ มีใจที่จะรักและอยู่กับวงได้นานๆ หรือไม่ เรารักและทุ่มเทที่จะมาอยู่ในวงเพื่อฝึกฝน พัฒนา และสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับพวกเราได้หรือเปล่า 

อันนี้เราต้องคิดอย่างจริงจังสักหน่อย ว่าเราอยากจะมาอยู่เพื่อวงจริงไหม? เราจะทุ่มเทจริงจังได้แค่ไหน และจะจัดการเวลาอย่างไรให้พอดี จะเกินกำลังหรือเปล่า? อันนี้ต้องเตรียมตัวให้พร้อมครับ เมื่อเข้ามาเป็นแล้ว จะต้องฝึกร้อง ซ้อมเต้น พัฒนาความสามารถของตัวเองให้เต็มที่! 
แต่ถ้าจะมาเพราะกระแส อยากเกาะกระแส อยากเด่นอยากดังเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีใจรักวงจริงๆ กรรมการก็คงจะไม่ให้ผ่านครับ



ภาพลักษณ์นั้น สำคัญอย่างยิ่ง

การรักษาภาพลักษณ์ที่ดี ทำให้ได้รับการยอมรับจากทุกๆ คน
(ภาพจาก BNK48 Offical Facebook)

ไม่ว่าจะเป็นไอดอลวงอะไรก็ตาม การรักษา "ภาพลักษณ์" ให้ขาวสะอาดนั้น เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะทำให้พวกเราสนใจที่จะติดตาม และสนับสนุนวงนี้ให้อยู่ได้นานหรือไม่
  ซึ่งกลุ่มพวกเราหลายคนต้องการคนที่มีทัศนคตีที่ดี มองโลกในแง่บวก จริงใจทั้งกลุ่มพวกเราและกลุ่มคนภายนอก 


เมื่อน้องๆ เข้าวงแล้ว จะต้องพูดชื่อวงต่อท้ายชื่อเล่นของตัวเองเสมอ ไม่ว่าจะไปที่ไหน คนภายนอกก็รู้ทันทีว่าเราเป็นสมาชิกของวงนี้ เราจะต้องวงตัวให้ดีขึ้นยิ่งกว่าเดิม



ปลาเน่าตัวเดียว เหม็นไปทั้งข้อง
ถ้าใครทำตัวไม่ดี ก็จะทำให้คนทั้งกลุ่มพลอยเสื่อมเสียไปด้วย
ถ้าใครเคยมีประวัติที่ไม่ดี คงต้องพิจาณาตัวเองอีกสักนิดหนึ่ง คิดทบทวนด้วยว่าทำไมถึงอยากจะเข้าวงนี้  ถ้าอยากจะมาจริงๆ ก็ต้อง "พร้อม" ที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองครับ

ถ้าเกิดมีคนที่ภาพลักษณ์หรือประวัติไม่ดีเข้ามาอยู่ในวง จะทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย จนพวกเราไม่คิดที่จะสนับสนุนวงไปต่อให้อยู่นานๆ ได้... ลองไปดูวงที่อยู่ทางเมือง น. สิครับ สมชื่อย่อทีมจริงๆ ซึ่งอาจมีเมมเบอร์ที่ชอบรังแกผู้อื่น แถมผู้บริหารก็แก้ไขไม่ตรงจุดแบบนี้ ทำให้เป็น "ปลาเน่า" ต่อ 48 Group อย่างที่เห็น

แต่ถ้าใครรู้ตัวว่าเคยมีประวัติไม่ดี แต่มีคุณสมบัติครบที่จะออดิชั่นได้ ผมจะเขียนแนะแนวในหัวข้อหลังๆ ครับ


ปิด Social ของตัวเองให้หมด


หนึ่งในกฎของการไปออดิชั่น คือการปิดบัญชี Social ของตัวเองให้หมด ซึ่งนี่เป็นกฎที่ระบุไว้อย่างชัดเจน ถ้าน้องๆ ได้เข้าวงแล้ว ทางผู้บริหารจะเปิดบัญชีอย่างเป็นทางการในฐานะสมาชิกวงครับ ถ้าเกิดน้องๆ ผ่านรอบแรก แล้วไปแชร์ว่าติดแล้ว จะทำให้กรรมการเพ่งเล็ง และคัดออก ทำให้หมดสิทธิ์ในการเข้ารอบต่อไปได้ อันนี้ต้องระวังกันหน่อยครับ ดีใจได้แต่อย่าหลงระเริงเกินไป และเริ่มเก็บตัวหันไปฝึกซ้อมตัวเองตั้งแต่วันนี้! 


ซึ่งการปิด Social นั้น ยังเป็นการป้องกันต่อผู้ประสงค์ร้ายที่แอบเอาข้อมูลของเราไปขุดคุ้ยและโจมตีในเรื่องเสียๆ หายๆ ได้ ถ้าปิดตั้งแต่เข้าสมัครรอบแรกได้เลยยิ่งดีครับ 



ปรึกษากับพ่อแม่ผู้ปกครองให้เรียบร้อย 

บางคนอาจจะมีความขัดแย้งภายในครอบครัว ซึ่งจะต้องปรับความเข้าใจซึ่งกันและกัน
(ภาพนี้มาจากส่วนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง Where We Belong)
มีเงื่อนไขหนึ่งของการออดิชั่น สำหรับน้องๆ ที่อายุน้อยกว่า 20 จะต้องให้ผู้ปกครองเซ็นยินยอมในการอนุญาตให้ไปสมัครนั้น ซึ่งอาจจะมีน้องๆ บางคนที่จะต้องพบกับความขัดแย้งกับครอบครัว...

อันนี้น้องๆ ลองคิดหาเหตุผลว่าจะคุยอย่างไรให้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจในการที่อยากจะมาเป็นไอดอลวงนี้ เมื่อเราตัดสินใจแบบนี้ท่านคงเป็นห่วงเราไม่น้อยเลยใช่ไหมครับ ดังนั้นน้องๆ อาจจะต้องทำอะไรบางอย่างให้ท่านพิสูจน์ได้ว่าเรามีความรับผิดชอบพอที่จะดูแลตัวเองได้


สำหรับคุณพ่อคุณแม่อ่านมาตรงนี้ ก็อยากจะให้ลองศึกษาและทำความเข้าใจสักนิดหนึ่ง ว่าทำไมลูกสาวถึงอยากจะไปเป็นไอดอล... อย่างน้อยลูกของท่าน เริ่มมีความคิดที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง อยากจะมอบความสุขให้กับทุกๆ คน ซึ่งลูกอาจจะมีความสามารถอะไรบางอย่างที่ไม่มีใครมองเห็น ถ้าลูกนั้นเป็นไปได้ดี ก็อาจจะเลี้ยงชีพตัวเองได้ หรืออาจจะได้เงินมาจุนเจือครอบครัวได้อีกด้วย




เพลง NO WAY MAN ของ AKB48

หากลูกของท่านไม่มีประวัติที่สร้างความเสื่อมเสียใดๆ ผมอยากให้ลองเปิดใจ เปิดโอกาสให้ลูกได้ลองทำความความฝันของบ้าง และเริ่มฝึกสอนให้ลูกช่วยเหลือดูแลตัวเอง ฝึกป้องกันตัวเองครับ... ไม่ใช่เอะอะว่าลูกอยากไปเป็นแล้วห้ามไปแบบนั้นไม่ได้ ถ้ายัดคำพูดชิงลบเชิงดูถูกว่าไม่มีทางทำได้แบบนั้น ท่านก็จะไม่ต่างอะไรไปจากเพลง NO WAY MAN ครับ

อย่าสิ้นหวัง! ถ้าเคยมาออฯ 2 ครั้งแล้วไม่ติด

"ถึงหนูไม่ได้เป็นรุ่นแรก หนูก็อยากจะเป็นรุ่นที่สองค่ะ"
- แพนด้า BNK48 กล่าวไว้ในตอนออดิชั่น BNK48 รุ่น 2
ภาพจากรายการ BNK48 2nd Generation (C)2018 Workpoint Entertainment
เอาง่ายๆ เลยครับ เพราะทางผู้บริหารเขาจะยิ่งสนใจ ถ้าเข้ามาออดิชั่นหลายๆ ครั้ง ซึ่งคุณต้อมกับพี่จ๊อบเคยให้สัมภาษณ์ใน BNK48 SENPAI รุ่น 2 ว่าจะรู็สึกตื่นเต้นทุกครั้ง ที่เห็นคนหน้าเดิมกลับมาออดิชั่น เพราะผู้บริหารอยากจะเห็นความเปลี่ยนแปลงว่าเป็นอย่างไร อย่างเช่น แพนด้า กับ มัยร่า ที่เคยมาสมัครรุ่น 1 แล้วไม่ติด แต่กลับมาติดรุ่น 2 ครับ

ซึ่งในคราวนี้ (ตามที่เขียนลงในวันที่ 15 มิถุนายน 2562) ถ้าคุณสมบัติ
ผ่านทุกข้อ ผมจึงอยากให้ลองมาสมัครที่ CGM48 ครับ แต่ถ้ายังไม่ติด ก็ยังมีโอกาสที่จะสมัครเข้า BNK48 รุ่น 3 ได้ในปีหน้า (พ.ศ.2563) ซึ่งในระหว่างนี้เราก็มีโอกาสที่จะพัฒนาตัวเองได้อีกครับ

จะว่าไป พอผมย้อนกลับไปดู BNK48 SENPAI แล้ว อยากเห็นคนที่มาสมัครไม่ติด กลับมาออดิชั่นให้กรรมการเห็นหน้าอีกครั้งครับ


ทิ้งอดีตไปเสีย!

"สายลมปลิวพัดพลิ้วมา ธรรมดาก็พัดไป หมดไม่มีอะไรเหลือ มันเป็นเพียงแค่ความหลัง"
- เนื้อเพลงส่วนหนึ่งของเพลง BEGINNER
แน่นอนว่าน้องๆ แต่ละคนอาจจะเคยทำเรื่องผิดพลาดมาก่อน ถ้าเรื่องที่ทำผิดพลาดนั้นไม่ร้ายแรงเกินไปนัก ก็ขอให้ลืมๆ มันไป การที่คิดจะเข้าวงนั้น เป็นสิ่งที่เรายอมรับว่าเราจะต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างในตัวเอง อย่าเอาเรื่องอดีตมาตั้งเป็นเงื่อนไขว่าจะไปไม่ได้ครับ


ปล่อยของออกมาให้หมด

ตาหวาน BNK48 เต้นเพลง "เชพบ๊ะ" แบบสุดๆ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
(ภาพจากคลิปของ AUBURNMACP บน YouTube)
ทางกรรมการและผู้บริหารจะให้เราๆได้แสดงพื้นที่ในการแสดงความสามารถของตัวเอง เราจะต้องแสดงให้เต็มที่ๆ สุด! มีเท่าไหร่ก็ใส่ไปให้หมด! อย่าได้สนใจอะไรทั้งสิ้น!... ซึ่งกรรมการเขาจะไม่ดูหรอกว่าเราแสดงเก่งได้มากน้อยแค่ไหน แต่จะมองว่าน้องๆ มีพรสวรรค์ พรแสวง และช่วยมองหาว่าเรามีอะไรในเด่นๆ ในตัวบ้าง... 

มีคำพูดหนึ่งของ "อากิโมโตะ ยาซุชิ" Producer ใหญ่แห่ง AKB48 ที่เคยกล่าวไว้ว่า การคัดเลือกสมาชิกให้มาอยู่ในวง AKB48 นั้น จะไม่เอาคนที่เลิศเลอ PERFECT ใดๆ แต่จะหาเพชรเม็ดงามที่ยังไม่ได้รับการเจียระไน  ดังนั้น ความสามารถของน้องๆ จะเก่งหรือไม่เก่งอย่างไร ก็ทำให้มันเต็มที่ไปเลยครับ ถ้ากรรมการเห็นว่าเรามีอะไรบางอย่างในตัว เขาก็จะให้ความสนใจที่จะเลือกเราเข้ามาอยู่ในวงครับ


จัดการเวลาตัวเองให้เป็นระเบียบ

วิธีการจัดการเวลาของเฌอปราง BNK48 ในช่วงที่เรียน ปี 4 และทำงานไปด้วย
(ภาพจากรายการ BNK48 SENPAI รุ่น 1)
การเข้ามาเป็นวงไอดอลนั้น เหมือนเป็นการเพิ่มหน้าที่สำคัญอีกอย่างให้กับตัวเอง น้องๆ จะต้องจัดการเวลาเรียน กับเวลาซ้อมให้พอดีที่สุด การพยายามที่จะให้ทั้งสองอย่างไปด้วยกันได้นั้น มันก็ไม่ได้ง่าย แต่มีคนจัดการได้ดีเยี่ยมเช่นกัน 

ตัวอย่างง่ายๆ เลยคือ เฌอปราง กัปตันวงที่รับผิดชอบอะไรหลายๆ อย่างและจัดการเวลาได้อย่างดีเยี่ยม ถ้าน้องๆ ที่มาใหม่ๆ ทำได้สัก 1/3 ของเฌอปรางได้ถือว่าสุดยอดแล้วครับ


มีพวกเราบางกลุ่มเป็นกังวลขึ้นมาทันที ถ้ารู้ว่าสมาชิกคนไหน เลือกเรียนคณะที่เรียนหนักๆ อย่างเช่น เรียนหมอ วิศวะ สถาปัตย์ หรือคณะสาขาที่จะต้องมีเวลาเรียนที่หนักมากกว่าปกติ อาจจะทำให้น้องๆ รับไม่ไหวทั้งเรื่องเรียนและเรื่องซ้อม 


แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าคณะเหล่านั้นเรียนหนักแค่ไหน แต่พอมีกรณีสมาชิกที่ประกาศจบการศึกษา (ออกจากวง) เพื่อไปมุ้งเน้นการเรียน มักจะมีกลุ่มพวกเรามาแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ในทำนองที่ว่า ถ้าเรียนคณะอะไรที่หนักๆ ก็ไม่ควรจะเข้ามาอยู่ในวงนี้ 


ทำให้ผมมีความคิดเห็นแบบส่วนตัวว่า ถ้าน้องๆ ที่เข้ามาใหม่ จะเน้นเรียนกับซ้อมไปพร้อมๆ กันนั้น อาจจะให้เหนื่อยจนกลายเป็นการจับปลาสองมือหรือเปล่า?... อันนี้ก็อยู่ที่ต้องน้องๆ ครับ ถ้าก้าวเข้ามาอยู่ในวงแล้ว พยายามจัดการเวลาเรียนและเวลาซ้อมให้ดีที่สุด ผมเชื่อว่าน้องๆ ทำได้ครับ ถึงแม้ว่าจะมีการประกาศจบการศึกษาเพื่อไปเน้นเรียน (ซึ่งผมเคารพการตัดสินใจของน้องๆ ที่จบการศึกษาไปครับ) แต่ก็มีสมาชิกบางคนที่สามารถทำทั้งสองอย่างไปพร้อมๆ กันได้อย่างเป็นระบบระเบียบครับ



เป็นตัวของตัวเองนั้นดีที่สุด

ปูเป้ BNK48 เคยสัมภาษณ์ไว้ในภาพยนตร์เรื่อง BNK48: Girl Don't Cry
ว่าพอเปลี่ยนบุคลิก ก็ถูกใจอีกคน แต่กลับไม่ถูกใจอีกคน
ก็เลยเป็นตัวของตัวเองตามธรรมชาติ
ในส่วนนี้ผมขอสปอยส่วนหนึ่งของหนัง Girls Don't Cry สักนิดหนึ่งครับ มีช่วงหนึ่งที่ BNK48 รุ่นแรกกำลังหาทางที่จะเพิ่มยอดถูกใจและยอดติดตาม ว่าจะต้องทำท่าอย่างนั้น แต่งตัวแบบโน้น ถ่ายรูปอย่างนี้เพื่อให้พวกเราได้ติดตามกัน แต่สุดท้ายก็รู้สึกไม่ถูกจริต ไม่เป็นตัวของตัวเอง ว่านั่นจำเป็นจะต้องทำแบบนั้นด้วยหรือ? โดยเฉพาะปูเป้ ที่คิดทบทวนตัวเองหลายครั้ง ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเอาใจคนอีกกลุ่ม ก็จะไม่ถูกใจอีกคนกลุ่มหนึ่ง ปูเป้จึงปล่อยวาง เป็นอย่างที่ตัวเองเป็น

นั่นแสดงเห็นเห็นว่า การกระทำใดๆ ที่พยายามเอาใจพวกเราโดยตรง แต่ไม่ตรงจริตของตัวเอง มักจะทำให้ไม่เป็นธรรมชาติ และไม่เป็นตัวของตัวเอง ที่สำคัญ เราไม่สามารถอะไรให้ทุกคนถูกใจได้ทั้งหมด ดังนั้น ตั้งแต่เริ่มเข้ามาออดิชั่นจนเข้าวงได้สำเร็จ ผมขอให้น้องๆ ทำตัวเป็นปกติทุกอย่าง แสดงออกต่อสิ่งที่ตัวเองสนใจจริงๆ การเป็นตัวของตัวเองนั้น แสดงถึงความเป็นธรรมชาติของตัวเองได้มากกว่า


ผมขอเน้นอีกครั้งว่า "ไอดอลมีความสนใจที่หลากหลายฉันใด โอตะก็มีความสนใจที่หลากหลายฉันนั้น" เมื่อน้องๆ แสดงความสนใจเรื่องไหนก็ตาม ก็ย่อมมีกลุ่มพวกเราที่สนใจตรงกันเข้ามาเสมอ อย่างเช่น แนทเธอรีน ชอบดูบอล วิเคราะห์และทายผลบอลจนเป็นธิดาชาวสวน และค่อยๆ เปิดตัวว่าเป็นแฟนหงส์ (ลิเวอร์พูล) ก็ย่อมมีกลุ่มพวกเราที่ชอบดูบอลเตะบอลและแฟนหงส์ ล้วนเข้ามาโอชิ (ชื่นชอบ) เธอครับ



อย่าเอาคำว่า "เป็นไปไม่ได้" มาบั่นทอนจิตใจของเรา

"ข้ามไป ข้ามให้ได้ YOU CAN DO IT!" -- เนื้อร้องท่อนท้ายของเพลง RIVER
ถ้าน้องๆ ตรวจสอบเงื่อนไขการออดิชั่นแล้วว่าไปสมัครได้ มีคุณสมบัติครบไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย แต่รู้สึกว่ายังมีอะไรติดค้างคาในใจ จนไม่กล้าไปสมัคร เช่น หน้าไม่สวย บ้านอยู่ไกล ไม่ค่อยมีความสามารถ ฯลฯ หรือมีคนไปท้วงติงว่าเป็นคนแบบนี้ จะสมัครติดเหรอ? เธอทำไม่ได้หรอก! หรือเป็นคำพูดลบๆ จาก(ขี้)ปากของพวก NO WAY MAN ล่ะก็

ต้องไป! ไปสมัครเลย! ถ้าอยากไปก็ต้องไปสมัครเลย! เพราะโอกาสแบบนี้หาได้ไม่ง่ายนัก เพราะการที่เราตบเท้าเข้าไปออดิชั่นนั้น เป็นความพยายามขั้นพื้นฐาน ที่เราอยากจะทำตามความฝันของตัวเอง เมื่อคิดจะไปแล้วก็ไป ไม่ต้องไปสนใจคำพากษ์วิจารณ์ว่าเราเป็นอย่างไร


ดังนั้น น้องๆ คนไหนที่คิดจะไปออดิชั่น ถ้าคุณสมบัติผ่าน และถ้าเราคิดว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ก็ไปสมัครไปเลยครับ อย่าไปฟังคำพูดหรือคำวิจารณ์ใดๆ ทั้งสิ้นครับ ให้ถือว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ 



จงจำไว้ว่า "ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ"


สุดท้ายนี้ ผมอยากให้น้องๆ จำหัวข้อนี้ไว้ ไม่จำเป็นที่จะต้องไปทำตามสิ่งที่แนะแนวมาทั้งหมดให้ครบ 100% ครับ น้องๆ บางคนที่อยากเข้าวง อาจจะไม่มีเหตุผลอะไรเลย (ความคิดที่จะเกาะกระแส หรืออยากดังก็ไม่มี) นอกจากมีใจอยากเข้ามา อยากจะร้องเต้นบนเวทีโดยไม่มีเหตุผลพิเศษก็ได้...

ผมเชื่อว่าทุกๆ คนมีความหวังที่จะทำได้เต็มที่ การที่เราหวัง 100 แต่ได้น้อยกว่านั้น เป็นเรื่องธรรมดามากครับ ถึงอย่างไร เราก็ไม่ควรกดดันมากเกินไปครับ พยายามให้เต็มที่ ถ้าเสร็จแล้วก็ให้มันจบตรงนั้น แล้วค่อยวิเคราะห์สิ่งที่ขาด เพื่อนำไปพัฒนาในครั้งใหม่ได้ในอนาคต


ที่สำคัญ ถ้าอะไรที่เรารู้สึกว่าทำไม่ได้ล่ะก็... ให้คิดเสียว่า ถึงแม้จะทำไม่ได้ แต่ฝึกฝนกันได้ ถ้ารู้ตัวว่าน้องๆ ร้องเต้นไม่เก่ง อันนี้ไม่ต้องคิดมาก ถ้าเข้าวงมาแล้วก็มีครูสอนเต้นสอนร้องเพลงมาฝึกฝนให้ครับ 


สุดท้ายแล้ว น้องๆ จะเป็นที่ชื่นชอบต่อทุกๆ คนได้หรือไม่นั้น ไม่ได้อยู่ที่ความสมบูรณ์แบบ แต่อยู่ที่ความพยายาม ของตัวน้องๆ เองครับ






ทั้งหมดนี้ เป็นการแนะนำแนวทางส่วนหนึ่งในมุมมองของผมครับ หวังว่าบทความนี้จะช่วยในการตัดสินใจที่จะไปออดิชั่น CGM48 หรือ BNK48 รุ่น 3 ในอนาคต หรืออาจจะเป็นวงไอดอลอื่นๆ ก็ได้


ถ้าคุณสมบัติเราครบ และใจอยากไป ก็ไปเลยครับ ไม่ลองไม่รู้ อย่าได้แคร์หรือกังวลอะไรบางอย่าง เพราะสิ่งที่คิดว่าเรายังด้อยนั้น สามารถปรับปรุงได้ในตอนหลังครับ


ที่สำคัญ การเข้ามาอยู่ในวง CGM48 หรือ BNK48 นั้น เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น เพราะเราจะต้องเจออะไรข้างหน้าอีกมากมาย สุดท้ายนี้ ผมขอเป็นกำลังใจให้น้องๆ ทุกคน พยายามให้เต็มที่ ขอให้โชคดีในการไปออดิชั่น และหมั่นฝึกฝนตัวเองอยู่เสมอ ผมขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ไปสมัครครับ



แหล่งอ้างอิง:

7 คำแนะนำก่อนจะเป็น BNK48 รุ่น 2 ต้องเตรียมตัวอย่างไร จาก 'ปัญ' 'เจนนิษฐ์' และ 'มิวสิค' - โดย Sam Ponsan เว็บ Mango Zero
ใครอยากติดCGM48 / BNK48ต้องรู้ ข้อความจากProducer 48Group - คลิปโดยคุณ Meenisery
อยากเป็นไอดอลแบบ BNK48 ต้องทำยังไงคะพี่?? - ส้ม มารี x ครูเอ๊ะ
การออดิชั่น CGM48 (และ BNK48 รุ่น 3 ในอนาคต) ในมุมมองของโอตะอย่างเราๆ ว่าควรจะเป็นอย่างไร - กระทู้ใน Pantip ที่ผมตั้งไว้ให้แสดงความเห็น
- รายการ BNK48 SENPAI รุ่นที่ 1 (ช่วงปี 2560)
- รายการ BNK48 SENPAI รุ่นที่ 2 (ช่วงปี 2561)
- เพจ Offical ของ CGM48
เพจ Offical ของ BNK48


ความคิดเห็น