[FIR] ยามิชิไบ Season ที่ 7 ตอนที่ 13: ตู้เย็น


ยามิชิไบ Season 7 ส่งท้ายความหลอนด้วย "ตู้เย็น" ครับ ถ้าจะเอาความสยองมาเชื่อมกับตู้เย็นนั้น ใน ในไทยเคยเกิดขึ้นจริง เมื่อปี พ.ศ.2543 ที่ลงข่าวคดีฆาตกรรมที่เอาศพยัดใส่ตู้เย็น ซึ่งทาง GTH ก็เอาเรื่องนี้ไปใส่เป็นภาพยนตร์เรื่องลัดดาแลนด์มาแล้ว ในส่วนของยามิชิไบจะเป็นแบบนั้นหรือไม่ นี่คือตอนส่งท้ายที่ผมนำมาสรุปและรีวิวครับ

ยามิชิไบ Season ที่ 7 ตอนที่ 13: ตู้เย็น


ในตอนนี้ให้ตัวตู้เย็นเป็น "ตัวเล่าเรื่อง" ครับ ซึ่งตัวตู้เย็นเองบอกว่า ตัวเองได้ถูกซื้อมาอยู่ในบ้านหลังหนึ่งที่ครอบครัวอยู่กันอย่างมีความสุขมาก ซึ่งผู้เป็นแม่ ได้ทำอาหารอร่อยๆ เก็บไว้ที่ตัวเองเยอะมาก ซึ่งตัวเองได้สัมผัสถึงความอบอุ่นของครอบครัวนี้เป็นอย่างดี

แต่ความสุขนั้นกลับอยู่ได้ไม่นานนัก เมื่อเวลาผ่านไป ทุกๆ คนเติบโตขึ้น แต่ครอบครัวเริ่มมีปากเสียง ทะเลาะกัน และไม่ค่อยมีของอร่อยๆ เข้ามาอยู่ในตัวเองเลย แม้จะเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจต่อตัวเอง แต่ก็สังเกตได้ว่า ลูกชายคนเล็กไม่ได้เติบโตไปตามวัย?


ในการส่งท้ายตอน ผมได้เขียนบทวิเคราะห์ลงกระทู้พันทิปแบบละเอียดไปแล้ว ในส่วนของบล็อกจึงมาการเพิ่มเติมนิดหน่อย สำหรับบทสรุปของตอนนี้คือ หลังจากครอบครัวบ้านแตกแยกย้ายกันไปจนตู้เย็นเหงา (แยกกันหมดแบบทิ้งบ้านไปเลย) เมื่อกลับมาอีกทีกลายเป็นว่าา ครอบครัวร่วมกันฆ่าหั่นศพพ่อแล้วยัดชิ้นส่วนเข้าตู้เย็น และทิ้งท้ายว่าเด็กที่ยังไม่โตนั้นเป็น "ผี" ที่อยู่ในบ้านหลังนี้

ในตอนนี้ได้หลอกให้เราเข้าใจผิดอยู่ตลอดว่าเด็กชายคนนั้น คือน้องชายในครอบครัว (และตู้เย็นเองก็เข้าใจผิด) ถ้าลองสังเกตตั้งแต่ต้น จะเห็นได้ว่า ครอบครัวไม่ได้พูดคุยหรือพูดถึงเด็กชายคนนั้นแม้แต่นิด และเด็กชายคนนั้นได้แต่มองตู้เย็นตลอด

การที่มองว่าเด็กชายคนนี้ไม่ใช่คนในครอบครัว เป็นผีเจ้าที่ ที่เฝ้าบ้านอยู่โดยไม่มีใครมองเห็น  และไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับครอบครัวนั้น ถ้ามองด้วยมุมมองอื่นๆ จะพบความขัดแย้งและเป็นมุมมองที่ไม่น่าใช่ เนื่องจากตอนต้นนั้นเล่าเรื่องราวและภาพประกอบในบรรยากาศที่เป็นบวกอย่างมาก โดยต่อจากนี้ผมจะยกมุมมองที่ไม่ใช่อย่างเช่น

1. เด็กชายคนนี้เคยถูกฆ่าหั่นศพยัดตู้เย็นตู้เก่า และซื้อตู้เย็นตู้ใหม่มาแทน
เป็นการเชื่อมโยงเหตุผลในการซื้อตู้เย็นใหม่ (ตู้ปัจจุบันที่เล่าเรื่อง) และการเชื่อมโยงว่าเป็นเหตุผลที่ทำให้(ผี)เด็ก แก้แค้นแบบลึกๆ ในมุมมองนี้ขัดแย้งมาก ถ้าหากเด็กคนนั้นเป็นน้องชายจริงๆ คงไม่มีครอบครัวไหนกล้าฆ่าลูกของตัวเองแล้วมีความสุขถึงขั้นซื้อตู้เย็นใหม่มาแทนที่... และถ้ามองว่าเด็กไม่ใช่คนในครอบครัว ก็ขัดแย้งเช่นกัน เมื่อฆ่าเด็กไปแล้ว ก็จะเหลือความรู้สึกหวาดระแวงและอยู่ไม่เป็นสุขแน่นอน

2. การซื้อตู้เย็นมาเพื่อทดแทนความสูญเสีย
เป็นมุมมองที่ทำให้เห็นว่า เด็กคนนั้นตายในจุดๆ ที่วางตู้เย็น และอาจจะคิดได้ว่า เด็กคนนี้อาจจะเกิดก่อน พี่ๆ 2 คนนั้นก็เป็นไปได้ ซึ่งครอบครัวนั้นอาจจะใช้เวลาทำใจมานานพอสมควร เสร็จแล้วซื้อตู้เย็นมาแทนที่เพื่อสร้างความสุขใหม่อีกครั้ง... ที่มองว่าไม่ใช่ ก็เพราะ ถ้าครอบครัวที่เคยผ่านเหตุการณ์ที่สูญเสีย ก็คงจะอมทุกข์ลืมความหลังนั้นไม่ลง และคงจะไม่มีความรู้สึกสดใสเหมือนฉากแรก

ดังนั้น มุมมองที่ว่าเด็กคนนั้นเป็นผีเจ้าที่ที่สิงก่อนหน้านี้จึงเป็นมุมมองที่ใช่ที่สุด
เพราะผมได้อ่านความเห็นทวิตเตอร์อันนี้ ซึ่งในบรรทัดที่ 3 ได้เขียนไว้ว่า "เป็นเด็กผีสิงที่ค่อยๆ ทำร้ายครอบครัว"  โดยสังเกตว่า ตอนต้นเรื่อง มีเค้ก 4 ชิ้น และสังเกตได้ว่าครอบครัวไม่ได้พูดคุยหรือสนใจเด็กคนนั้นเลย... จึงกลายเป็นบทสรุปในมุมมองที่ใช่คือ เด็กคนนั้นเป็นผีเจ้าที่ ที่สิงในบ้านหลังนี้ก่อนที่ครอบครัวจะย้ายเข้ามา และอาจจะหลอกลึกๆ ด้วยการยุให้บ้านแตกถึงขั้นฆ่าหั่นศพพ่อ

ด้วยมุมมองนี้ จึงต่อยอดได้อีกหนึ่ง โดยมองจากสาเหตุการตายของเด็กให้เป็นแบบ Infinity Loop ถ้าย้อนกลับไปมองในมุมมองที่เด็กถูกฆ่ายัดตู้เย็น ฆาตกรจึงไม่ใช่ครอบครัวนี้แน่นอน แต่อาจเป็นครอบครัวก่อนที่อาจมีปัญหาถึงขั้นฆ่าเด็กยัดตู้เย็นเสร็จแล้วย้ายออก จนกระทั้งมีครอบครัวนี้เข้ามาแล้วเกิดเรื่องราวซ้ำรอยกับครอบครัวก่อน 

ดังนั้น หลังจากที่ครอบครัวนี้ฆ่าพ่อ ผีพ่อก็จะเป็นวิญญาณสิงดูตู้เย็นเหมือนเด็กคนนั้น และรอคอยครอบครัวใหม่ที่ย้ายเข้ามา และอาจจะหลอกให้ครอบครัวฆ่าคนยัดตู้เย็นเป็นทอดๆ ก็ได้

จะว่าไปการที่เห็นผีเด็ก โดยไม่ได้ฉุกคิดว่าเป็นผีนั้น ก็เพิ่มความหลอนได้ลึกๆ แค่เห็นหน้าเด็กแบบธรรมดาซ้ำๆ จนสังเกตได้ ก็ทวีความหลอนแบบฝังลึกได้เช่นกัน... แต่มีคนเขียนสรุปรวบยอดในทวิตเตอร์ว่า สุดท้ายแล้วสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือคนนั่นเอง ซึ่งความเห็นนี้ที่บอกได้ว่า ทำไมผมชอบดูเรื่องเล่าสยองขวัญ

ระดับความน่ากลัว : 💀💀💀💀💀💀🚫🚫🚫🚫 (6/10)
ระดับเนื้อหา : 🚫 (9/10)
ระดับความชอบส่วนตัว : 🚫🚫🚫 (6/10)
รวมเป็น: 69/100


ยามิชิไบ Season 7 ก็โอชิไม เพียงเท่านี้ และมีความเห็นในทวิตเตอร์ก็ตั้งตารอ Season 8 ในปีหน้ากันเลยทีเดียว ถ้ามี Season 8 ผมจะกลับมาติดตามและสรุปอีกครับ... หลังจากนี้ ผมคิดว่าจะลองไปสรรหาการ์ตูนสั้นแนวสยองขวัญที่นอกเหนือจากยามิชิไบ หากมีเรื่องไหนที่หลอนๆ ให้ลองแนะนำผมผ่านทางเฟซบุ๊กหรือพันทิป ถ้าผมไปดูแล้วผมจะเอากลับมาเขียนลงบล็อกและกระทู้พันทิปครับ



ความคิดเห็น