ปี 2563 นั้น ไม่มียามิชิไบ Season หลักครับ แต่มีภาคพิเศษ (Spin-Off) ในชื่อ Ninja Collection กับ ภาคคนแสดงมาฉายในรูปแบบละคร สำหรับ Season 8 นั้น มีประกาศมาแล้วว่าจะฉายในต้นปี 2564 ครับ สำหรับบทความนี้ จะเขียนถึงยามิชิไบฉบับคนแสดงครับ
ยามิชิไบ (อิคิ) / 闇芝居(生) หรือ ยามิชิไบฉบับคนแสดง เป็นยามิชิไบที่เอา "ภาพจริง" และ "คนจริง" มาทำภาพตัดแปะเป็นละครสั้นสไตล์คามิชิไบ (ละครกระดาษ) ไม่ใช่วาดภาพแบบการ์ตูน และไม่ใช่เอาคนมาแสดงเหมือนละครทั่วๆ ไป
ในภาคคนแสดงนั้น ออกอากาศทางช่อง TV Tokyo ช่วงละครซุยโดระทเวนตี้ไฟว์ (水ドラ25) เวลาตี 1 ครึ่ง ถึง ตี 2 ของวันพฤหัสบดี (หรือช่วงดึกเลยเที่ยงคืนจากวันพุธ) ออกอากาศระหว่างวันที่ 10 กันยายน ถึง 26 พฤศจิกายน 2563 รวมทั้งสิ้น 12 ตอนใหญ่ ในแต่ละตอนใหญ่ จะแบ่งออกเป็น 3 ตอนย่อย ความยาวประมาณ 8 นาที มีทั้งตอนเก่าที่ยกมาจากอนิเมะ และตอนที่สร้างขึ้นมาใหม่ นอกจากนี้ยังมีตอนแถม ที่เล่าเรื่องราวแบบสั้นๆ ให้ส่งความหลอนมาถึงจิตใจของผู้ชมแบบง่ายๆ
สำหรับบทความของผม จะเขียนสรุปถึงเรื่องย่อของแต่ละตอน โดยตอนเก่า จะเขียนถึงความแตกต่างจากอนิเมะ ส่วนตอนใหม่นั้น ผมจะแปลเรื่องย่อคร่าวๆ รวมไปถึงความรู้สึกที่ได้ดูจนจบ ส่วนตอนแถมนั้น ผมพยายามจะแปลจากสิ่งที่เล่ามาตรงๆ และผมจะแบ่งการรีวิวบทความละ 3 ตอนครับ
ตอนที่ 1 (ออกอากาศเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2563)
ตอนที่ 1-1 ยันต์ของหญิงสาว (จาก Season 1 ตอนที่ 1)
เปรียบเทียบความแตกต่างจากอนิเมะ ผู้หญิงที่เข้ามาแปะยันต์ในภาคนี้ดูสวยขึ้นและเรียบร้อย ผิดกับภาคอนิเมะที่เป็นผู้หญิงที่ผมยุ่งรุ่มร่าม ในส่วนตัวผมมองว่าอยากให้แต่งเหมือนอนิเมะมากกว่า แต่กลับมาดีขึ้นตรงฉากสุดท้ายที่หลอนไม่แพ้อนิเมะเลย และยังขยายความถึงคำเตือนผู้หญิงคนนั้นด้วย
ตอนที่ 1-EX ตู้ผนัง (ตอนแถม)
"คุณเคยรู้สึกแปลกๆ ไหม ที่ทุกครั้งคุณมักจะแน่ใจแล้วว่าปิดตู้ผนังสนิท แต่ตู้นั้นแง้มช่องว่างออกมา... เพราะบางครั้ง คุณอาจจะไม่ได้ตั้งใจที่จะปิด และนั่นทำให้คุณคิดว่าลืมปิดก็ได้... แต่ถ้าคุณปิดสนิทแล้ว ก็ไม่เป็นไรหรอก... เพราะเรื่องมีอยู่ว่า ในตู้ผนังนั้นอาจมีบางสิ่งบางอย่างที่กำลังจ้องมองคุณอยู่ก็เป็นได้..."
พวกตู้ต่างในบ้านของเรานั้น ถ้าเราปิดไม่สนิท เท่ากับว่าเพิ่มความหลอนใกล้ตัวของเราได้ ถ้าไม่ใช่ผี อาจจะมีแมลงสัตว์ที่ไม่พึงประสงค์มาทำอันตรายต่อเราได้ ถ้างั้นก็ลองไปสำรวจตู้ต่างๆ ตามห้องดูนะครับ ว่าปิดสนิทหรือยัง
ตอนที่ 1-2 อาการเบื่อแฟน (ตอนใหม่)
เป็นตอนใหม่ คำว่า 倦怠期 (เคนไตกิ) ในภาษาญี่ปุ่นนั้น หมายถึงช่วงเวลาที่คู่รักหมดความตื่นเต้น รู้สึกเบื่อหน่ายในคู่ของตัวเอง เป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งของความสัมพันธ์ในชีวิตคู่ครับ
ในตอนนี้เป็นเรื่องของคู่สามีภรรยาที่เข้าสู่ในช่วงที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป... คุมิผู้เป็นภรรยาได้รับรู้ถึงความเบื่อหน่ายของทาคายุกิผู้เป็นสามีของเธอ ไม่ว่าเธอจะทักอย่างไร เขาก็ไม่ตอบรับหรือพูดจาอะไรกับเธอเลย เธอสับสนว่าทำไมเขาถึงเปลี่ยนไป จนวันหนึ่ง เธอได้พบไดอารี่ที่เขาเขียนเอาไว้ ก็พบกับความจริงอันแสนสุดสะพรึง!!!
เหตุการณ์ตอนนี้ มีจุดหักมุมที่ทำให้ผมเข้าใจความรู้สึกของคนที่กลัวการพูดตรงๆ ไม่รู้ว่าเราจะพูดอย่างไรดี ให้อีกฝ่ายเข้าใจ และไม่โกรธกับเรา ในเมื่อเรานึกไม่ออกว่าจะใช้คำพูดแบบไหน ก็เลยเลือกที่จะไม่พูด แต่เมื่อเวลาล่วงเลยไป ก็กลายเป็นว่า มันสายเกินกว่าที่จะพูดไปแล้ว...
และยังได้สื่อสำนวนที่เรียกว่า "ความรักทำให้คนตาบอด" อีกด้วย แต่บางที การที่เรารู้หรือเห็นว่าเป็นความรัก เราอาจจะเลือกที่จะตาบอดก็ได้ ในนิยามนั้นก็มีข้อดีส่วนหนึ่งก็คือ เราเลือกที่จะเข้าใจและให้อภัยในข้อด้อยของอีกฝ่ายได้ ยิ่งช่วยกันแก้ไขซึ่งกันและกันได้ ก็จะกลายเป็นความรักที่ดีงามและยั่งยืนได้
แต่ความรักนั้น ไม่ได้สิ้นสุดหรือจบที่การแต่งงานเท่านั้น พอแต่งงานแล้วก็ต้องครองชีวิตคู่กันต่อไป ถ้าครองคู่ได้ดีมากเท่าไหร่ ความรักและชีวิตคู่ก็จะยืนยาว ถึงขั้นเหนือความตายก็ว่าได้ดั่งในตอนนี้... บางครั้ง ความตายอาจไม่ใช่จุดสิ้นสุดของความรักด้วยซ้ำ และก็ยังไม่สามารถพรากความรักไปจากกันได้... ทั้งหมดที่กล่าวมา ก็คือความหลอนไปในทางดราม่าสำหรับตอนนี้ ระดับความน่ากลัวผมให้ 9/10 ครับ
ตอนที่ 1-3 เพื่อนบ้าน/คนข้างห้อง (จาก Season 5 ตอนที่ 8)
ในอนิเมะ Season 5 จะเป็น Theme ผู้หญิง ซึ่งในภาคนี้เปลี่ยนเป็นตัวละครผู้ชายครับ ฉากที่มือโผล่ออกจากช่องสอดนั้นได้เพิ่มตุ้งแช่ลงไปด้วย ช่วงหลัง ตัวผีไม่ได้ตุ้งแช่ แต่กลับมาตุ้งแช่ในฉากจบ... จะว่าไปฉากสุดท้ายนั้น จะหลอนก็หลอน จะขำก็ขำครับ
ตอนที่ 2 (ออกอากาศเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2563)
ตอนที่ 2-1 ถ้ำทิ้งเพื่อน (จาก Season 6 ตอนที่ 2)
ความรู้สึก ณ วันที่เขียน อนิเมะตอนนี้เป็นตอนที่ผมเกลียดที่สุดในบรรดายามิชิไบทุกตอนครับ สำหรับถ้ำทิ้งเพื่อนในภาคคนแสดง ก็เปลี่ยนตัวละครเป็นผู้ชายเช่นกัน ส่วนตอนจบมีการเปลี่ยนแปลงไปตรงที่ ทุกคนตายหมด และถ้ำนั้นก็ถูกปิดไม่ให้ใครเข้าไปอีกเลย... ผมขอตัดสินว่า ตอนนี้ภาคคนแสดงดีกว่าภาคอนิเมะครับ!! (แม้จะเสียดายคนที่ถูกกระทำที่ต้องมาตายร่วมกับพวกมัน)...
ตอนที่ 2-EX รอยมือ (ตอนแถม)
"วันหนึ่ง ผมได้สังเกตเห็นรอยมือตามจุดต่างๆ ผมก็เลยเดินไปสังเกตรอบๆ เมือง ซึ่งทีแรกก็ดูน่าสนใจดีนะ คิดว่าคงจะมีใครมาแกล้งเอามือมาประทับอะไรหรือเปล่า? แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะรอยมือกลับมาปรากฎใกล้ๆ ผม แม้กระทั่งประตูหน้าห้อง... เฮ้ยใครน่ะ!? ถ้าอยู่ใกล้ๆ ก็มาปรากฎตัวสิ! หา ว้าาาาากกกกก!!!!"
ตอนที่ 2-2 แสงในที่มืด (ตอนใหม่)
เป็นเรื่องราวของ ฮารุกิ ชายหนุ่ม Part-Time ที่พาแฟนสาวที่ชื่อมินามิ มาชมพลุในคืนเทศกาลดอกไม้ไฟ โดยเลือกสถานที่ๆ เขาได้ยินมาจากกลุ่มลูกค้า ว่าเป็นดาดฟ้าแห่งหนึ่งที่สามารถชมพลุที่สวยและมองเห็นได้ชัดที่สุด ซึ่งเขานึกออกเลยว่าเป็นจุดที่อยู่ใกล้สถานที่จัดงาน ในคืนนั้น เขาได้เตรียมแหวนเพื่อที่จะมามั่นกับเธอ แต่ความสยองกลับจู่โจมเข้ามาเสียก่อน...
ตอนนี้ เป็น Trick พื้นฐานที่ล่อให้ตัวละครมาเจอผีแบบง่ายๆ เหมือนหลอกเหยื่อให้มาติดกับดักครับ สิ่งที่น่าคิดสำหรับตอนนี้ สถานที่ๆ ชมพลุที่ฮารุกิรู้สึกว่าเป็นจุดที่อยู่ใกล้สถานที่จุดพลุนั้น ก็อาจจะเชื่อมได้ว่าทำไมถึงมีผีแถมเข้ามาด้วย... ในความรู้สึกของผมนั้น ผมมองว่า ความสวยความงามของพลุและดอกไม้ไฟนั้น ก็มีความอันตรายที่ไม่ต่างจากการที่เอาตัวเราเข้าไปอยู่ใกล้กับระเบิดครับ... ระดับความน่ากลัวของตอนนี้อยู่ที่ 9/10 ครับ
ตอนที่ 2-3 ฟ้าผ่ามาเยือน (จาก Season 6 ตอนที่ 1)
ด้วยความยาวที่อำนวย จึงได้เห็นรายละเอียดที่มาที่ไปได้ดีขึ้น และเพิ่มความหลอนขึ้น ซึ่งตอนนี้ชี้ชัดเลยว่าพ่อเป็นคนฆ่าแม่ พอลูกกลัวฟ้าผ่า (ผี)แม่ก็มาเยือนครับ ช่วงที่หลอนๆ เป็นช่วงที่แม่ขอให้ลูกเปิดประตูข้างบ้าน แต่ท้ายตอนอาจจะดูตลกไปนิดครับ
ตอนที่ 3 (ออกอากาศเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2563)
ตอนที่ 3-1 ใบแจ้งรับพัสดุ (ตอนใหม่)
ในภาษาญี่ปุ่น คำว่า "不在票" (ฟูไซเฮียว) หมายถึงใบแจ้งว่ามีของมาส่งในขณะที่เราไม่อยู่บ้านหรือห้องพัก เมื่อของมาส่งแล้วไม่เจอตัว ก็จะเจอใบนี้แทนเพื่อต้องการให้เราติดต่อไปทางไปรษณีย์ว่าจะให้ส่งอีกครั้ง หรือเดินทางไปรับด้วยตัวเอง
ซาคาโมโต้ ชายหนุ่มที่พึ่งกลับเข้ามาในห้อง ก็ได้พบกับใบแจ้งรับพัสดุ ในใบนั้นได้เขียนถึงพัสดุที่มาส่งว่าเป็น "ของสด" เขาโทรไปทางไปรษณีย์ก็ไม่ได้ข้อมูลอะไร นอกจากบอกให้รอแล้วตัดสายไป และเขาได้รับใบนี้ติดต่อกันมาหลายครั้งแล้ว เขาโทรด้วยอาการหัวร้อน ทางไปรษณีย์จึงรู้ว่าเขารีบ แต่ก็ยังบอกให้รอต่อไปแล้วตัดสายต่อไป เขาหัวร้อน เพราะฝ่ายที่รอต้องเป็นเขา... แล้วสิ่งที่มาส่งถึงห้องของเขานั้นคืออะไรกันแน่?
ในตอนนี้ มีผีหลอกกลางวันครับ และตอนจบนั้นเป็นอะไรที่คาดไม่ถึงมาก นั่นก็สื่อได้ว่า ความตายสามารถมาหาเราได้ทุกเมื่อ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นกลางวันหรือหลางคืน ไม่รู้ว่าจะรับของสิ่งนี้ดีหรือไม่นะ 555+ ระดับความหลอนอยู่ที่ 9/10 ครับ
ตอนที่ 3-2 ดอกไม้ที่ไม่มีวันเหี่ยว (ตอนใหม่)
โยสุเกะ ชายหนุ่มที่กำลังจัดข้าวของในห้องพักแห่งใหม่ ก็ได้พบเมล็ดทานตะวันที่หล่นลงมาจากหนังสือ เขาจำได้ว่าเป็นเมล็ดที่เขาเก็บไว้ในตอนเด็กๆ ที่แม่พาเขาไปจับแมลงที่ทุ่งทานตะวัน เขาจึงนำไปปลูกที่สวนสาธารณะ ตรงบริเวณดินข้างๆ ม้านั่ง
ด้วยภาระงานต่างๆ ทำให้เขาไม่มีเวลามาดูแลนัก แต่เมล็ดนั้น ก็โตขึ้นเป็นต้นทานตะวันที่สวยงาม ทำให้โยสุเกะมีกำลังใจขึ้นมามาก เขาจึงมีความสุขในการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน เขามักจะมารดน้ำและดูแลทุกวัน หรือช่วงวันหยุด เขาก็มานั่งพักชมดอกทานตะวันต้นนี้อยู่ตลอด
เวลาผ่านไปจนกระทั่งฤดูไบไม้ร่วง เขาได้คบกับแฟนสาวชื่อยูริ และพามาพักด้วยกัน ก็พบว่า ดอกทานตะวันยังไม่เหี่ยว เขาบอกเธอว่าเป็นต้นที่เขาปลูกเอง เธอชอบใจมาก แต่นั่นก็ทำให้เกิดเรื่องสยองขวัญอะไรบางอย่าง...??
แม้ว่าจะเดาถูกในบางส่วน แต่ตอนจบนี้ทำเอาผมงงไปเลย ผมไม่เข้าใจว่าเกลียดกันขนาดนั้นเลยหรือ? เป็นตอนที่ดูแปลกๆ ชอบกล... ใจคอไม่คิดจะให้ผู้ชายสละโสดหรืออย่างไรกัน ถ้าหวงมากเกินไป ผู้ชายก็เจ็บปวดได้เหมือนกันนะ 555+ ระดับความหลอนของตอนนี้ให้ 6/10 ครับ
ตอนที่ 3-3 ขัดแย้ง (จาก Season 1 ตอนที่ 7)
ในตอนนี้ เปลี่ยนแปลงจากสาวยูโกะ เป็นหนุ่มยูอิจิแทน และเปลี่ยนมาเป็นโทรศัพท์ที่ทันสมัยขึ้น แต่น่าเสียดายที่ ผีไม่โผล่มาแบบตุ้งแช่เหมือนอนิเมะ จะว่าไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแบบอนิเมะหรือคนแสดง ก็ยังสงสัยว่าทำไมผีถึงต้องมาสิงและมาถามใครก็ไม่รู้ (คนที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผี) ว่าจะให้ออกไปได้หรือยัง ถ้าออกไปแล้วจะไปทำอะไรกันแน่?...
นี่คือ 3 ตอนแรกที่ผมนำมาสรุปและ Review แบบคร่าวๆ ครับ ทีแรกผมก็นึกว่าจะมาเป็นละครคนแสดงจริงๆ แบบตัวละครเคลื่อนที่ไปมา แต่จริงๆ ก็คือภาพตัดแปะเหมือนเดิมครับ ให้เป็นสไตล์ละครกระดาษ บางครั้ง การแสดงท่าทีของตัวละคร ทำให้รู้สึกเหมือนแนวตลกมากกว่าแนวแนวผี แต่ก็คุ้มค่าที่ดูได้จุใจถึง 3 เรื่อง และยังมีตอนแถมสั้นๆ ให้ชมด้วย สำหรับบทความนี้ ก็ขอจบลงที่ 3 ตอนไปก่อน และบทความหน้าจะเขียนถึงตอนที่ 4-6 ครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น