บันทึกการเล่น Undertale: (EP.05) ราชา Asgore กับ ดีออก Flowey


สำหรับบันทึกการเล่นบทที่ 5 นี้ ผมเล่นในวันเดียวกันกับบทที่ 4 ครับ ด้วยความคิดที่ว่า น่าจะยาวไปถึงบทที่ 8 ซึ่งบทนี้เราจะได้มาพบกับ Asgore แล้ว ปรากฎว่า ผมเห็นอะไรบางอย่างที่คาดไม่ถึง ซึ่งการเล่นมาถึงบทนี้ ทำให้ผมเห็นแล้วว่า เส้นทางในการเล่นของผม จะใช่ Pacifist Route หรือไม่?





เมืองใหม่?

เมืองสีเทา?
ฉากแรกที่เข้ามา จะผ่านกำแพงเมืองสีเทา และเข้าสู่วิวของเมืองสีเทาดังรูป อาจดูเหมือนเป็นเมืองที่เงียบสงบหรือเงียบเหงาอย่างบอกไม่ถูก

ในส่วนนี้พอเราสำรวจไปเรื่อยๆ ก็ไม่พบการต่อสู้กับสัตว์ประหลาดตัวใดๆ เลย 







บ้านหลังใหม่ที่ไม่ใหม่? กับความทรงจำบางอย่าง

คล้ายบ้านของ Toriel เลย
เมื่อเราเข้าบ้านหลังหนึ่ง ปรากฎว่า โครงสร้างของบ้านนั้น เหมือนกับของ Toriel ในบทแรกไม่มีผิด แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปคือ โครงสร้างบ้านเปลี่ยนเป็นสีขาวเทาหมด  และดอกไม้บาน แต่หารู้ไม่ว่า มันเป็นสิ่งที่หยาบคายต่อคนไทยเสียจริง (555+)

ถ้าเราไปสำรวจแต่ละห้องเรื่อยๆ เราจะเข้าสู่ฉากต่อสู้กับสัตว์ประหลาด... แต่พวกมันจะไม่สู้กับเรา พวกมันเล่าเรื่องราวในความทรงจำต่างๆ ให้เราได้รับรู้ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับโลกใต้พิภพแห่งนี้




เรื่องราวแห่งความทรงจำ
สำหรับเรื่องราวที่กลุ่มสัตว์ประหลาดเล่าให้เราฟัง พวกมันได้เล่าเรื่องของ Asriel ลูกของราชา Asogre เคยพบคนที่ตกลงมาบนโลกใต้พิภพมาก่อน และพบโศกอนาถกรรม ที่เกิดขึ้นระหว่าสองเผ่าพันธุ์ เป็นเหตุให้ Asgore ตัดสินใจว่า ถ้ามนุษย์คนใดตกลงมาจะฆ่าทิ้งให้หมด!!

ตรงนี้ผมขออุบเรื่องนี้ไว้ก่อนดีกว่าครับ แม้ว่าผมจะรู้ในระหว่างเล่นหรือหลังเล่นก็ตาม แต่ถ้าอ่านในส่วนนี้แล้ว ทำให้ผมเริ่มตัดสินใจได้ดีขึ้นว่าเรื่องนี้ควรจะเป็นแบบใด



"สิ่งหยาบคาย" ในบ้านหลังนี้
ในบ้านนี้ เจ้าของบ้านได้ทิ้งกุญแจไว้ให้เราไขเพื่อลงไปข้างล่างได้ ให้เราไปเก็บและไปไขโซ่ แล้วลงไปข้างล่าง เราจะพบกลุ่มสัตว์ประหลาดเล่าเรื่องต่างๆ เพิ่มเติม ตามรูปด้านบน ส่วนรูปนี้ ผมขอชี้ให้เห็นว่า มันมีสิ่งหยาบคายต่อคนไทยในบ้านหลังนี้จริงๆ 555+ 

จะว่าไป เมื่อผมลองพา Frisk ไปสำรวจเมืองขาวเทาเรื่อยๆ ยิ่งทำให้รู้สึกเว้งว้างว่างเปล่าไร้วี่แววผู้คน มีเพียงจุด Save ที่รู้สึกถี่ผิดปกติ  ถ้าเดินไปสุดทาง จะมีทางเข้าไปห้องโถงสุดท้าย




คุณ Sans เผยการกระทำของเรา

ผู้เล่นจะถูกตัดสินจากการกระทำทั้งหมดที่เล่นในเกมนี้!!
ในห้องโถงสุดท้าย เป็นห้องโถงทอง โดยจะถูกปรับมุมมองตัวละครเป็นลักษณะเงามืด เมื่อเดินไปเรื่อยๆ ระจะพบคุณ Sans จะมาสรุปการผจญภัย และการกระทำของเราทั้งหมด และแสดงความเห็นว่าการเล่นของเราเป็นอย่างไร

สิ่งที่น่าสนใจในเกมนี้คือ ค่า EXP ที่เราเก็บไปนั้น ที่เรามักจะคิดว่าเป็นค่าประสบการณ์ (Experince Points) แต่ในเกมนี้หมายถึง Execution Points หมายถึงค่าการประหาร ถ้าเราสะสมมากๆ LV หรือ LOVE จะเพิ่มขึ้น LOVE ในที่นี่ไม่ใช่ Level หรือค่าความรัก แต่เป็น Level of Violence หรือค่าความรุนแรง... ถ้าผมไม่ได้เผลออ่านสปอยมาก่อนคงจะเซอไฟรส์อย่างหนักหน่วง และป่านนี้คงจะเก็บ LV ไปเยอะแหงๆ...



คุณ Sans บอกทุกคนจับตามองดูเราอยู่
คุณ Sans ได้ระบุถึงเงื่อนไขที่จะเกิดขึ้นว่า ถ้าเราจะปล่อยให้ Asgore ฆ่าเรา Asgore จะนำหัวใจเราไปทำลายเกราะกำบัง และขึ้นไปทำลายล้างเหล่ามนุษย์ที่อยู่ข้างบน แต่ถ้าเราฆ่า Asgore และกลับบ้าน กลุ่มสัตว์ประหลาดจะยังคงอยู่ในโลกใต้พิภพเหมือนเดิม... และบอกเราว่า ถ้าคุณ Sans เป็นตัวเรา เขาคงจะยอมแพ้ต่อสิ่งนี้

ตรงนี้เป็นสิ่งที่วัดใจเรามาก ถ้าเราเจอราชา Asogre เราะจะฆ่าหรือไม่ฆ่า จะยืนยันเส้นทางแห่ง Pacifist Route ได้นานแค่ไหน แต่ถึงอย่างไร ผมยังยืนยันในเส้นทางของตัวเอง และรู้สึกว่ายังจะพอไปกับ Pacifist Route ได้ แม้ว่าผมจะไม่ฆ่าใครเลยก็จริง แต่ผมรู้ว่าควรจะมีใครบางคนที่ต้องฆ่า




ถึงเวลาที่ต้องเผชิญหน้า?

เราไม่ใช่คนแรกที่มาเยือนโลกนี้
เมื่อเราไปสำรวจไปถึงประตูทางเข้าพระราชวังของ Asgore ผมพาไปสำรวจห้องทางล่างขวา เราจะพบ "โลงศพ" ของมนุษย์ โดยที่โลงหัวใจสีแดงนั้น ก็คือตัวเรา และเป็นโลงที่ว่างเปล่า นั่นหมายความว่า Asgore กำลังเตรียมฆ่าเราอยู่นั่นเอง

ซึ่งเป็นที่รู้ๆ กันว่า ชนกลุ่มสัตว์ประหลาด ต้องการหัวใจมนุษย์ให้ครบ 7 ดวง เพื่อทำลายเกราะกำบังและกลับขึ้นไปใช้ชีวิตอยู่เบื้องบน ซึ่งเป็นความหวังของชนกลุ่มนั่นเอง




ราชา Asgore
กับคำทักทายคล้าย Flowey
คราวนี้ผมพา Frisk ย้อนกลับขึ้นไปห้องโถงพระราชวัง ก็พบ ราชา Asgore กำลังรดน้ำต่อ(สิ่งหยาบคาย)อยู่ ท่าทางการพูดดูอ้ำๆ อึ้งๆ ยังไงอยู่... แต่คำทักทายครั้งแรกทำไมคล้ายกับกับ Flowey เลย

เสร็จแล้วเขาเดินเข้าไปที่ประตูห้องทางซ้าย เมื่อเราไปสำรวจ เราจะเห็นบัลลังก์อยู่ตรงกลาง และบัลลังก์อีกตัวที่วางข้างประตูด้านหลังที่ถูกหุ้มด้วยพลาสติก 





เหมือนตอนเริ่มเกมเลย
พอเดินตาม Asgore เข้าไป เราจะพบฉากที่คล้ายคลึงกับตอนแรก เราจะเห็นการพูดของ Asgore ที่เหมือนจะมีลับลมคมในอะไรบางอย่าง แต่ถึงอย่างไร เราก็เข้าใจถึงแผนการของเขาอย่างชัดเจน

ในฉากนี้ ถ้าเราเดินไปทางขวา จะยิ่งเห็นชัดว่าเหมือนกับตอนแรกไม่มีผิด และ Asgore ย้ำถามว่าเราพร้อมหรือยัง ซึ่งตรงนี้ทำให้ผู้เล่นย้ำคิดถึงอะไรบางอย่างก็ได้ พอเดินไปทางขวา ก็เห็นประตูเหมือนกับฉากแรกเลย





หัวใจดวงสุดท้ายที่ยังรอการบรรจุ?
เมื่อเข้าประตูมา Asgore ชี้ว่า ที่นี่คือ "เกราะกำบัง" ที่มนุษย์สร้างมาเพื่อกักขังกลุ่มสัตว์ประหลาดไว้ในโลกใต้พิภพนี้ และเน้นถามว่าเราพร้อมจริงๆ หรือยัง

ถ้าพร้อมแล้ว Asgore จะแสดงหลอดแคปซูลที่เก็บหัวใจมนุษย์ 6 ดวง และหลอดที่ว่างเปล่านั่นแหละ ที่ Asgore จะเอาของเราไป และจากนี้คือการต่อสู้กับ Asgore!!




ASGORE FIGHT!!! กับการตัดสินใจครั้งสุดท้าย!!!

ASGORE FIGHT กับปุ่ม MERCY ที่ถูกทำลาย
การต้อสู้ครั้งนี้ Asgore จะพังปุ่ม MERCY ทิ้งไป... นี่เป็นการ "วัดใจครั้งสุดท้าย" ว่าเราจะสู้ หรือไม่สู้ ซึ่งเราไม่สามารถ Spare ได้ ผมลองพิจารณาว่า ถ้าเลือก FIGHT แต่ไม่กดปุ่ม (ปล่อยให้ Miss) จะถือว่าเป็นการไม่สู้หรือ Spare ทางอ้อมไม่? และพยายามท่องในใจว่า ถึงแม้จะ Game Over ก็ช่างมัน เป็นการเรียนรู้การโจมตีไปเรื่อยๆ (พลาดแล้วกลับไปแก้ไขเรื่อยๆ) 

ผมจำได้ว่า ผมเคยไปอ่านเฉลยตอนสู้กับ Toriel ว่า ถ้า FIGHT แล้วปล่อยให้ Miss คือการ Spare แบบอ้อม? อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจเท่าไรนัก แต่ลองพูดคุยหลายๆ หนแล้ว ไม่เป็นผล นอกจากลดพลังโจมตีและป้องกันของ Asgore สุดท้าย การต่อสู้ครั้งนี้ Game Over ครับ...



อย่าพึ่งจบตอนเท่านี้!
พอเริ่มเล่นใหม่ ผมลอง FIGHT และปล่อยให้ Miss ดู ปรากฎว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อยนอกจาก ACT ที่เกมระบุว่า เราได้บอก Asgore ว่าเขาฆ่าเราไปแล้วกี่ครั้ง... ซึ่งในระหว่างการต่อสู้ Asgore ไม่ค่อยพูดอะไรเลย

ในช่วงนั้นผมกลับมาตั้งหลักใหม่ ลองโทรหา Toriel ดู ก็ไม่มีการตอบรับใดๆ ผมรู้สึกว่าเริ่มตันกับการต่อสู้ครั้งนี้ว่าจะทำอย่างไรจึงจะ Spare ให้ผ่าน ผมจึงสู้ซ้ำๆ ไปหลายครั้ง จน Game Over ถึงรอบที่ 8 (จากการเล่นทั้งหมด) ผมจึงตัดดสินใจ ยอมดูเฉลยจาก Wikia

สิ่งที่ทำได้คือต้องสู้เท่านั้น!!
และนั่นทำให้ผมทึ่งไปเลยครับ! เพราะการต่อสู้กับ Asgore ครั้งนี้จะต้อง FIGHT อย่างเดียวเท่านั้น ไม่ว่าเราจะอยากสู้หรือไม่สู้อย่างไรก็ต้อง FIGHT!! ถ้าเราอยากจะ Spare เราจะต้องโจมตี Asgore จนพลังหมดให้ได้!!

เมื่อเราสู้จน Asgore หมดพลัง Asgore จะรำพึงถึงอดีตและความทรงจำ เกี่ยวกับการตายของลูกชาย รวมไปถึงเรื่องราวที่ผ่านมาโดยเฉพาะความรู้สึกผิดต่างๆ เสร็จแล้วเกมจะให้เราเลือกว่า จะปลิดชีพหรือไว้ชีวิต



ปลิดชีพ  ← ไว้ชีวิต
จากหน้าจอนี้ จะสังเกตได้ว่าปุ่ม MERCY อยู่ในสภาพร้าว เพราะ Asgore พังไว้ในตอนแรก ในจุดนี้ ผมยอมรับว่าเผลอไปอ่านสปอยว่า Asgore เคยเป็นสามีกับ Toriel มาก่อน และมารู้จากในเกมว่า Asriel ก็คือลูกชายของสองตนที่ตายไปจากคำบอกเล่าของกลุ่มสัตว์ประหลาด


Asgore บอกจะดูแลเราเป็นอย่างดี
Asgore บอกกับเราว่า ไม่อยากจะทำร้ายใครอีกต่อไปแล้ว อยากเจอภรรยา อยากเจอลูก มันเป็นเหตุผลทะลุ 100% เลยครับที่ผมควรจะทำอย่างไร แม้ว่า Asgore ขอให้เราปลิดชีพเพื่อที่จะให้เราออกไปจากที่นี่อย่างไร... 

แน่นอนครับว่า ผมจะ MERCY ไม่ปลิดชีพ Asgore ผมจึงเลื่อนหัวใจ ไปยังปุ่มนั้น เพราะผมหวังว่า ถ้าไว้ชีวิตแล้ว Asgore จะมีโอกาสได้กลับไปแก้ไขในสิ่งที่อยากจะทำแต่ไม่มีโอกาสได้ทำ เมื่อเราเลือก MERCY แล้ว Asgore สัญญว่าจะดูแลเราเป็นอย่างดีเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน 



แต่ว่า...!?



"นายยังไม่รู้เหรอว่าโลกนี้ต้องทำยังไง"
Flowey ใช้พลังมาลอบฆ่า Asgore ทิ้งไปต่อหน้าต่อตา!! และบอกเราว่า เรายังไม่เข้าใจในโลกของเกมนี้ และลักกินหัวใจทั้ง 6 ดวงเข้าไปในตัวเองดัง พร้อมกับวลีประจำของเกมนี้...









 "เพราะในโลกนี้ จะต้องฆ่าหรือถูกฆ่า"



หน้าจอเปิดเกมผิดปกติ!!
และเกมถูกปิดลง! ผมรู้สึกตกใจและหัวร้อนไปกับการกระทำของดีออกตัวนี้ พอกลับมาเปิดเกมใหม่ ปรากฎว่าหน้าจอของเกมเป็นบั๊คครับ!!!

ถ้าเรากดเข้าไป เราจะโหลดได้ตามปกติ แต่กลับเป็นไฟล์ของดีออก Flowey ผมจึงลองกดต่อดูปรากฎว่า เราอยู่ในหน้าจออันมืดมิด ถ้าเราเดินขึ้นไปจนสุด จะเห็นจุด Save...



.

การเยาะเย้ยดีออก!!
แต่เซฟไฟล์ของเราถูกลบ!! และพบกับ Flowey มาถากถางเรา มันบอกว่า Asgore ตายแล้ว และจะประกาศตัวเป็นใหญ่ ที่ได้รวบรวมหัวใจมนุษย์ทั้งหมด เหลือของเราคนเดียว และจะได้มีพลังวิเศษที่เหนือกว่าโดยไม่มีใครหยุดมันได้ (Goo จะอ้วก!!)

และนี่คือการต่อสู้ครั้งสำคัญ!

(ตรงนี้แหละครับที่ผมรู้มาจากการอ่านสปอย จึงซื้อมาเล่นครับ)



PHOTOSHOP FLOWEY FIGHT!!

ไม่นึกไม่ฝันว่า หลังจากที่เผลอดูสปอยแล้ว
จะได้มาเล่นในฉากนี้จริงๆ!!!

ก่อนอื่น ผมขอบอกตรงนี้ไว้ก่อนนะครับว่า การที่ได้มาสู้กับ Photoshop Flowey (หรือที่แฟนเกมเรียกว่า Omega Flowey) นั้น ผมเคยดูคลิปการต่อสู้บน Youtube ไปแล้ว และผมตัดสินใจ "ปิดคลิป" ช่วงกลางๆ เพราะอาการสงสัย+อยากเล่นมันเข้ามาอยู่ในจิต

และนั่น ผมลองไปดูและศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเกม Undertale จนเริ่มรู้ว่ามีบทจบ 3 แบบ อีกทั้งผมได้ลองศึกษาการต่อสู้อย่างละเอียด (โดยเฉพาะ การต่อสู้กับ Photoshop Flowey) เรื่องราวน่าสนใจ แถมการเล่นของเรานั้นจะทำให้บทบาทในเนื้อเรื่องเปลี่ยนไปด้วย

ถ้าพูดง่ายๆ คือ ผมดูสปอยการต่อสู้กับ Final Boss แบบเต็มๆ และศึกษาข้อมูลเกมมา นี่แหละ ที่ทำผมตัดสินใจเลิกอ่านสปอย และซื้อมาเล่นเองเสียเลย!!!

การต่อสู้ในแต่ละช่วง
(แคปจาก YouTube)
ในการต่อสู้ จากที่ผมรู้อย่างละเอียดจากคลิปใน YouTube และอ่านสปอยใน Wikia ผมเห็นแล้วว่ามันยากขนาดไหน พอเล่นเองแล้วยังรู้สึกเกือบตาย แต่สุดท้ายผมผ่านมาได้ครับ เพลงบรรเลงในการต่อสู้ครั้งนี้โตครเร้าใจและตื่นเต้น ถ้าฟังเฉยๆ ก็รู้สึกติดหูและติดใจไปแล้วครับ 555+

การต่อสู้กับ Photoshop Flowey นั้น มันจะโจมตีเราหลากหลายรูปแบบมาก เป็นการหลบที่โคตรยาก ระยะเวลาในการหลบหลีกการต่อสู้จะเท่ากับความยาวของเพลงที่บรรเลงอยู่  ในระหว่างนั้นจะมีปุ่ม FIGHT โผล่ออกมา ให้เรารีบไปกดเพื่อโจมตีมัน การต่อสู้ในครึ่งแรก จะแบ่งออกเป็น 6 ช่วง และในบางช่วง มันจะโกงการเล่นของเราด้วยการ Save/Load State สุดแสบอีกด้วย!!

SOUL Attack Mode
(แคปจาก YouTube)
เมื่อหมดแต่ละช่วง หน้าจอทีวีจะขึ้นคำว่า WARNING อยู่ด้านบนของหัวใจสีต่างๆ เพื่อเข้าสู่ SOUL Attack Mode ซึ่งแต่ละช่วง จะมีรูปอาวุธต่างๆ คอยโจมตีและเราต้องหลบให้ได้ตามจังหวะ และระว่างนั้นจะมีปุ่ม ACT ลอยมา ให้เรารีบไปกด และเกมจะขึ้นว่า "You called for help..." จากนั้นสิ่งที่โจมตี จะเปลี่ยนเป็นสีเขียว ที่เราต้องใช้โอกาสรีบไปเก็บเพื่อรักษาตัวเองให้พลังเต็ม







หัวใจทั้ง 6 สี ลอยมารักษาเราเพื่อการโจมตีในครึ่งหลัง
เมื่อผ่านการโจมตีครึ่งแรกไปแล้ว หัวใจทั้ง 6 ดวง เข้ามาล้อมหัวใจของเราและฟื้นพลังให้จนเต็ม และเข้าสู่การโจมตีในครึ่งหลัง เมื่อหัวใจทั้ง 6 ดวงลอยออกไปจากตัวมัน ค่าป้องกันของมันกลายเป็น 0 และเราจะต่อสู้เหมือนในแบบครึ่งแรก แต่คราวนี้จะมีปล่อยของรักษาตัวเราออกมาเป็นระยะ และปุ่ม FIGHT จะออกมาถี่ขึ้น ให้เราหาจังหวะโจมตีให้พลังหมดให้ได้!!! เพลงประกอบนั้น ได้อารมณ์ปลุกใจจากความท้อแท้สิ้นหวังได้อย่างไพเราะครับ

ในส่วนนี้ ผมเคยดูคลิปถึงครึ่งหลังแล้วปิด ก่อนที่จะมาเล่นเกมนี้ครับ และผมไม่ดูครึ่งหลังจนกระทั่งได้มาเล่นจริงๆ แล้วครับ


การโกงของดีออก!!
เมื่อเราต่อสู้เพื่อลดพลังมันจนหมด มันเล่นโกงเราด้วยการ Load State มาใหม่ และทำการฆ่าเราด้วยความสนุกสนาน และทำให้พลังเราเหลือแค่ 1 พร้อมด้วยล้อมกระสุนเพื่อสังหารเรา แถมคำด่าดูถูกถากถางเป็นชุด แถมท้าให้เราขอความช่วยเหลือ

เมื่อมันถากถางเราอย่างสะใจแล้ว มันจะเริ่มสังหารเรา สุดท้ายเราจะต้องยอมรับชะตากรรม ที่จะต้อง Game Over แน่นอน!!



ฆ่ามัน!!!!!
แต่มีคนฟื้นพลังเราจนเต็ม... และมันไม่สามารถ Load State ได้อีก หัวใจทั้ง 6 ดวง ต่างพากันออกมาโจมตีดีออก๕อย่างรุนแรง ร่างกายของมันเริ่มถูกทำลายจนพังพินาศ!!!!!

ในครึ่งหลัง ผมยอมรับว่า แม้จะดูคลิปไม่ถึง แต่ผมไปเผลออ่านมาจาก Wikia มาจนโดนสปอยหมดเรียบร้อยครับ จึงไม่มีอารมณ์หวาดกลัว หัวร้อน หรือสิ้นหวัง ไปกับเหตุการณ์ที่เห็น...

นี่ถือว่าเป็นบทเรียนที่ได้รับของผมเลยว่า เกมบางเกม หนังบางเรื่อง ที่เรารู้สึกสนใจมาๆ เราควรจะลงมือเล่นหรือดูด้วยตัวเองดีกว่าที่จะไปอ่านสปอยนะครับ


ดีออก! Mung หมดอำนาจแล้ว ตายซะเถอะ!!
นี่คือสภาพของดีออก Flowey อยู่ในสภาพเหี่ยวเฉาหมดอำนาจ เกมจะให้เราเลือกว่าจะฆ่ามันหรือไม่ฆ่ามัน คราวนี้เป็นจังหวะที่ผมด่าเอาคืนใส่มันเพื่อระบายความหัวร้อนจนหนำใจ และคำตอบของผมทะลุ 100% ครับว่า ผมเลือกที่จะ "ฆ่ามัน"

กลายเป็นเพียงแค่ดอกไม้ธรรมดา...
สาเหตุที่ผมเลือกฆ่า Flowey เพราะ มันพูดจาดูถูกถากทางระหว่างการเล่นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งผมมองว่า การดูถูกทางวาจา มันไม่ต่างจากคนที่เอามีดมาแทงหัวใจอย่างช้าๆ แม้ว่าผมจะอ่านสปอยมาหรือไม่ก็ตาม ผมก็มองว่าดีออกมันโคตรชั่ว "ฆ่าทิ้ง" เลยดีกว่า มันบอกเองว่า "อยู่โลกนี้จะต้องฆ่าหรือถูกฆ่า" ดังนั้น ผมยืนยันในคำตอบเดิมว่า "ฆ่า" ครับ

เมื่อผมฆ่ามัน มันยังยิ้มเยาะก่อนตายและดวงวิญญาณหายไปจนกลายเป็นดอกไม้ธรรมดา...



สรุปผลการเล่นที่เกิดขึ้น...

คุณ Sans โทรมาหาเรา หลังหน้าจอเครดิต

เมื่อออกจากฉากไป ถือว่า Frisk ออกจากโลกใต้พิภพขึ้นมาสู่โลกเบื้องบนเรียบร้อยแล้ว แถมขึ้นเครดิตผู้สร้างเกมแบบเงียบๆ... พอจบหน้าจอเสร็จ คุณ Sans โทรมาบอกเราว่าเกิดอะไรขึ้นในโลกใต้พิภพ

สำหรับผลการเล่นของผม คุณ Sans บอกว่า ราชินี (หมายถึง Toriel) ได้กลับมาครองบรรลังก์แทน Asgore และกำหนดกฎเกณฑ์ใหม่ว่า ถ้ามีมนุษย์ตกลงมา จะดูแลเหมือนกับเพื่อนฝูงหรือคนในครอบครัว โดยไม่มองเป็นศัตรูอีก

นอกจากนี้ หัวใจที่ราชา Asgore เคยเก็บรวบรวมมานั้น หายไปหมดแล้ว และทุกตนกำลังเศร้าโศกเสียใจต่อการจากไปของ Asgore แต่ Toriel บอกทุกตนว่าอย่าพึ่งสิ้นหวังและอย่าย้อมแพ้ และบอกเราว่าถ้าถึงเวลานั้นก็อย่ายอมแพ้เช่นกัน (ในที่นี้คือ ทางโลกใต้พิภพจะรวบรวมหัวใจใหม่เพื่อให้วังว่าจะออกจากโลกใต้พิภพไปอยู่รวมกันกับมนุษย์อีกครั้ง)

จากนั้น Papyrus เข้ามาพูดแทรก เขารู้ว่าเบอร์นี้คือเบอร์ของเรา เขาบอกว่า Toriel สั่งยุติการก่อตั้ง Royal Guard ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะใช้ชีวิตอยู่อย่างไรต่อไป แต่บอกเราว่าเขาและพี่ชายอยู่อย่างสบายดี แต่ Undyne ที่กำลังตกระกำลังบากอยู่...

เพราะ Toriel สั่งยุติ Royal Guard ทำให้ Undyne ตกงาน และบ้านถูกยึด!! เขากับพี่ชายจึงพานางมาอยู่ที่บ้าน โดยคุณ Sans น้องชายของเขา ได้จ้างเธอไปเป็นคนขายฮอตดอกที่ Hotland แต่นางไม่ชอบ ด้วยเหตุผลที่ผมฟังแล้วเข้าใจ เพราะว่ามันร้อนนั่นเอง...

Undyne ยังบ่นรัวๆ ใส่ Papyrus เรื่องการจากไปของ Asgore ว่าทั้งหมดเป็นความผิดของเรา และจะหาทางแก้แค้น ด้วยแผนที่จะทลายกำบังแล้วขึ้นไปทำร้ายเรา เขาบอกว่าแผนนี้ไม่มีทางเป็นไปได้ แต่เขาบอกอาจจะหาแผนการที่ง่ายขึ้น และอวยพรให้เราโชคดีด้วยความหวังว่าที่จะได้เจอกันอีก เสร็จแล้ววางสายไป...


ถ้าเราย้อนกลับไปเล่นอีกครั้ง...

"ข้าคงไม่สามารถทำให้จบลงอย่างเป็นสุขได้..."
นั่นทำให้ผมรู้ตัวแล้วว่า การเล่นของตัวเอง จบลงแบบ Neutral Route และเกมย้อนกลับมาหน้าจอหลัก นั่นทำให้ผมรู้สึกว่า อาจจได้เล่นจบทั้ง 2 แบบ ผมลองโหลดของเดิม เพื่อลองสู้กับ Asgore อีกครั้ง (โดยใช้วิธีเดิม หลังจากที่ฆ่า Flowey ไปแล้ว...) หวังว่าคงจะมีโอกาสเล่นจบแบบ Pacifist Route ได้อีก

ซึ่งผมรู้มาจากสปอยว่า การฆ่าดีออก "Flowey" จะไม่เสียการเล่นแบบ Pacfist Route

แต่ปรากฎว่า สู้อีกครั้ง Asgore ถูกดีออกฆ่าเหมือนเดิมโดยบทพูดเปลี่ยนไป แต่คราวนี้ ไม่ได้สู้กับมันอีกแล้ว?? นอกจากมันบอกเรื่องเซฟ ถ้าฆ่ามันแล้วโหลดไฟล์อีกมันก็จะกลับมา... และหลังจากนั้น ก็เข้าฉากว่างเปล่าซึ่งดีออก Flowey ไม่โผล่มาอีก เหลือเพียงแต่เราที่สามารถพา Frisk ออกจากแดนใต้พิภพและจบเกมแบบ Netural Ending เหมือนเดิม... ตรงนี้ผมงงว่า ถ้าเราฆ่ามันไปแล้ว มันยังคงกลับมาอีกหรือ?



แต่ก็ได้คำตอบด้วยตัวเองแล้วคือ ใช่! มันกลับมา เพราะเราโหลดไฟล์เดิมก่อนที่จะฆ่ามัน มันคงจะรู้แล้ว ถ้ามันต่อสู้กับเรา มันถูกฆ่าอีกแน่นอน มันจึงไม่กล้าสู้กับเราอีก... (และมันคงไม่รวบรวมหัวใจใส่ตัวมันเองอีก)


นี่แหละคือเสน่ห์ของเกม Undertale ถ้าเราย้อนกลับไปเล่น เกมจะมีระบบจดจำการเล่นทุกอย่าง โดยเฉพาะการย้อนกลับไปเล่นใหม่

ยอมรับมาโดยดี ว่าย้อนการเล่นแบบนี้...
และที่ผมเขียนในบทความก่อนๆ ว่า "ย้อนไปเล่นแบบเสียความซื่อสัตย์" คือ ผมทำการ Backup Save File เมื่อผมเล่นเสร็จ ผมจะ ก็อปไฟล์เอาไว้อีกที่ พอเล่นพลาด ผมจึงเอาไฟล์นั้นกลับมาเล่นใหม่ การ Backup แบบนี้ ก็ไม่ต่างอะไรไปจากการโกงแบบอ้อมๆ... แม้ว่าตัวเกมจะไม่รู้ แต่ตัวเรานั่นแหละที่รู้อยู่แก่ใจ... 

ผมยอมรับและสารภาพในความผิดครั้งนี้ครับ ที่ผมทำแบบนี้ผมอยากจะรักษาการเล่นของตัวเองโดยมุ่งหวังที่จะไม่(เผลอ)ฆ่าใครสักคน และต้องการจะให้จบแบบ Pacifist Route ครับ ผมจึงอยากจะคงตัวเองไว้ที่ Lv.1 ให้ยอดการฆ่าเป็น 0 ครับ และกังวลด้วยว่า ถ้าผมพลาดเงื่อนไขอะไรบางอย่างอาจทำให้ไม่สามารถเล่นจบแบบ Pacifist Route ได้ครับ



สรุปการเล่นครั้งนี้: ได้ตอนจบแบบ Neutral Route 

สรุปการเล่นของผมรอบแรกคือ 
1. คง LV.1 
2. มีการย้อนเซฟแบบเสียความซื่อสัตย์
3. ไม่ฆ่าอะไรเลย
4. แต่ฆ่า Flowey ตอนจบ
5. เล่นซ้ำอีกครั้ง หวังที่จะรักษา Asgore แต่ไม่สำเร็จ
6. เป็นเพื่อนกับ Papyrus แต่ไม่ได้เป็นเพื่อนกับ Undyne และไม่ได้เดทกับ Dr.Alphys

แผนการเล่นของผมนั้น เลือกที่จะไม่ฆ่าใครเลย แต่จะฆ่าเฉพาะดีออก Flowey เท่านั้นครับ เมื่อรู้ตัวแล้วว่าได้ตอนจบแบบ Neutral Route ซึ่งผมรู้ตัวมาตั้งแต่ตอนที่สู้กับ Photoshop Flowey หลังจากนั้น ผมจึงลองไปเปิดอ่านเฉลยบน Wikia(ลิ้งนี้อย่าคลิก เพราะเป็นสปอย) เฉพาะส่วนของ Neutral Route เท่านั้น

ปรากฎว่า เนื้อเรื่องที่เล่นในครั้งนี้ ตรงกับ Neutral Route ทั้งหมดจนน่าตกใจ! และพบว่า เงื่อนไขในการเล่นนั้น ถ้าเราเล่นไม่ผ่านเงื่อนไขของ Pacifist Route หรือ Genocide Route หรือ! ถ้าเราไม่ฆ่าใครเลยในการเล่นครั้งแรก เราะจะได้ตอนจบแบบ Neutral Route เช่นกัน...

ผลลัทธ์ของตอนจบแบบ Neutral Route คือ:

- Asgore เสียชีวิต (ถ้าเราไม่ฆ่า ดีออกจะฆ่าเขาแทน)
- หัวใจที่เก็บสะสมมา หายไปทั้งหมด
- แม้ว่า Frisk ออกไปได้แล้วก็จริง แต่กลุ่มสัตว์ประหลาดที่เหลือยังคงอยู่ในโลกใต้พิภาพเหมือนเดิม


และจะมีบทจบย่อยที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับเราว่า เราฆ่าหรือไม่ฆ่าใครบ้าง และยังมีบทจบย่อยสำหรับคนที่โกงเกมอีกด้วย!(ลิ้งนี้อย่าคลิก เพราะเป็นสปอย) ในส่วนของการเล่นของผม ผมได้บทจบย่อยเป็น Betrayed Undyne Ending ครับ

จากที่ผมหวังว่าการเล่นของผมจะเป็น Pacifist Route แต่กลายเป็น Neutral Route ไปเสียได้...


แต่ผมรู้สึกโล่งใจมากกว่า... และรู้สึก "ขอบคุณตัวเองที่เข้าใจผิด" ถ้าสมมุติว่าผมได้ Pacifist Route จริงๆ ผมคงหมดความรู้สึกที่จะดูตอนจบด้วยอาการเสียอรรถรสไปแล้วนั่นเอง อย่างไรก็ตาม ผมมองว่าเกมนี้ควรจะเล่นก่อนดูเฉลยครับ


ตอนนี้ ผมยังไม่รู้เลยว่าอะไรคือเงื่อนไขเพิ่มเติมที่เราจะได้เล่นแบบ Pacifist Route กันแน่? ตอนนั้นผมคิดหนักและลอง Reset ไปเล่นใหม่โดยลองฆ่าบางตัวดู เผื่อจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง... หลังหยุดเล่น ผมกลับมาคิดอย่างถี่ถ้วนอีกครั้งว่า... อะไรคือเงื่อนไขของ Pacifist Route?

และพึ่งจะนึกออกว่า เราลืมให้อะไรบางอย่าง...

คุณ Sans บอกอย่ายอมแพ้
แม้ว่าเราจะเป็นอย่างไรก็ตาม
ผมยังไม่ได้ให้ Firsk เป็นเพื่อนกับ Undyne, Dr.Alphys และยังไม่ได้ออกไปเที่ยวเล่นกับคุณ Sans และตัวละครคนอื่นๆ เลย นั่นหมายความว่า... นอกจากละในสิ่งที่ไม่ดี และลอง "ให้" ความรักและมิตรภาพของตัวละครนั้นด้วย ซึ่งอาจเป็นเงื่อนไขหนึ่งที่ทำให้สามารถจบแบบ Pacifist Route ได้

หลังจากนี้ ผมตัดสินใจจะกลับไปเล่นใหม่ครับ (เข้าไปกด Reset ในเกมเฉยๆ) ดังนั้นบทความบนบล็อกหอยทากนี้ยังคงมีบันทึกการเล่นในบทต่อไป ผมจะเล่นใหม่อีกครั้ง เพื่อเก็บ Pacifist Ending ให้ได้ครับ (ยิ้มอย่างมีความหวัง) 😉



ความคิดเห็น